เมียวิศวกรพาลูก ร้องกองปราบเอาผิด หมอรพ.ดัง! วินิจฉัยโรคผิด ทำผัวดับทุรน
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา สามีตนมีอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้ายและแขนซ้าย กล้ามเนื้ออ่อนแรง เหนื่อยและหายใจลำบาก คล้ายจะเป็นโรคหัวใจ จึงรีบไปให้หมอตรวจอาการที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งแพทย์ได้ตรวจพร้อมซักประวัติ เสร็จแล้วก็ระบุว่า อาการจุกเสียดและเจ็บหน้าอกนั้น เป็นผลมาจากโรคกระเพาะอาหาร พร้อมกับจ่ายยาบรรเทา และให้นอนดูอาการอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนบอกให้กลับบ้าน ทั้งที่คนป่วยอาการยังไม่ดีขึ้น แต่เนื่องจากหมอผู้ตรวจได้ระบุว่า เกิดจากอาการของโรคกระเพาะ ทำให้ตนและสามีสบายใจ ก่อนจะกลับบ้าน
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลา 23.00 น.คืนวันเดียวกัน เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน นายศุภชัยก็เกิดอาการชักเกร็ง ตาเหลือก น้ำลายฟูมปาก ตนจึงร้องเรียกให้ลูกชายมาช่วยกันปั๊มหัวใจ พร้อมโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนกู้ภัย แต่ก็ไม่ทันการณ์ ก่อนที่นายศุภชัยจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้นำศพส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต แพทย์ระบุสาเหตุการตาย มาจากเส้นเลือดหัวใจตีบ วันต่อมาตนจึงไปติดต่อที่โรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อขอเอกสารเวชระเบียน แต่ทางโรงพยาบาลอ้างว่าต้องใช้เวลา 7 วัน และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
"สามีมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับเรื่องคอเลสตอรอล แต่ไม่เคยมีอาการเจ็บหน้าอกแบบนี้มาก่อน อีกทั้ง ยังมาใช้บริการที่โรงพยาบาลแห่งนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว จึงเชื่อใจในหมอและโรงพยาบาล สำหรับค่ารักษานั้นก็น่าจะใช้ประกันกลุ่มของบริษัท ซึ่งสามีมีเงินเดือนกว่า 7 หมื่นบาท จึงไม่น่าเป็นปัญหา แต่ที่เป็นห่วงก็คือ เขาเป็นเสาหลักของบ้าน ยังมีพ่อแม่และครอบครัวที่ต้องดูแล ซึ่งไม่น่าจะจากไปเร็วแบบนี้ เพราะอายุเพิ่งจะ 45 ปีเอง" นางกิ่งกาญจน์ กล่าว
ด้าน นายวรกร กล่าวว่า ที่มาวันนี้ก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์ผู้วินิจฉัย ฐานความผิดกระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งได้นำเอกสารใบรับรองแพทย์ที่ระบุการวินิจฉัยอาการว่าสงสัยเป็นโรคกระเพาะ มาให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาด้วย
เบื้องต้น พ.ต.ท.ทรงพล ได้สอบปากคำผู้เสียหายพร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมด ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป