เปิดตำนานรถเมล์สาย 8 ทำไมต้องซิ่ง?
หลังเกิดเหตุ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ได้ดำเนินการลงโทษ ดังนี้ 1. ปรับบริษัท กลุ่ม 39 เดินรถ จำกัด ในอัตราขั้นสูงสุด 5,000 บาท 2. ลงโทษไล่ออกพนักงานขับรถคันนี้ 3. พักการเดินรถสาย 8 คันที่เกิดเหตุ เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 -15 ต.ค.นี้ 4. กำชับผู้แทนบริษัท เรื่องการกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎจราจร และ5.หากพบว่าพนักงานกระทำความผิดในลักษณะนี้อีก จะพิจารณาลงโทษสถานหนักต่อไป
มาดูประวัติขอรถเมล์สาย 8 กัน โดยรถเมล์สายนี้ ได้รับการอนุมัติให้เดินรถครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2475 หมายความว่า นับจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 86 ปีแล้วที่รถเมล์สายนี้โลดแล่นอยู่บนท้องถนน
ส่วนสาเหตุที่ทำให้รถเมล์สายนี้ต้องซิ่งทำเวลารับส่งผู้โดยสารนั้นมาจาก ในเส้นทางการวิ่งของรถเมล์สายนี้ มีผู้ประกอบการที่ได้รับสัมปทานถึง 4 บริษัท คือ
1.บริษัท กลุ่ม 39 เดินรถ จำกัด มีรถเมล์ร้อนให้บริการ 20 คัน ปี 2561 มีรายได้ 376,000 บาทโดยประมาณ หักรายจ่ายทุกอย่างแล้ว เหลือกำไร 42,000 บาท
2.บริษัท ทรัพย์ 888 จำกัด มีรถเมล์ร้อนให้บริการ 26 คัน มีรายได้ทั้งหมด 15 ล้านบาทเศษ หักต้นทุนแล้วเหลือกำไร 880,000 บาท
3.บริษัท ไทยบัสขนส่ง จำกัด มีรถเมล์ร้อนให้บริการ 26 คัน มีรายได้รวม 22 ล้านบาทเศษ แต่ผลประกอบการขาดทุน 320,000 บาทเศษ
4.บริษัท ซิตี้บัส จำกัด มีรถ ปอ. รวมทั้งหมด 30 คัน แต่รถ ปอ. จะวิ่งยาวไปถึงเคหะร่มเกล้า มีรายได้ประมาณ 60 ล้านบาท แต่ต้นทุนจากการให้บริการรถ ปอ. มากถึง 55 ล้านบาท ทำให้มีกำไรเพียง 501,000 บาท
นอกเหนือจากวินัยและพฤติกรรมของคนขับบางคน ปัญหาการขับรถซิ่งแย่งลูกค้าส่วนหนึ่งก็มาจากเรื่องของโครงสร้างในการกำหนดผลตอบแทน โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีการกำหนดผลตอบแทนให้แก่คนขับรถเมล์และกระเป๋ารถเมล์ในลักษณะที่ไม่มีเงินเดือนประจำ มีเพียงเงินเบี้ยเลี้ยงวันละไม่กี่ร้อยบาท
ส่วนรายได้หลักจะมาจากส่วนแบ่งยอดขายตั๋ว ซึ่งคนขับรถเมล์จะได้รับส่วนแบ่ง 10% ของค่าโดยสาร ขณะที่กระเป๋ารถเมล์จะได้รับส่วนแบ่ง 5% ของค่าโดยสาร ดังนั้น ถ้าอยากได้เงินเยอะก็ต้องแข่งกันรับผู้โดยสารให้ได้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการขับรถเร็ว เราจึงมักเห็นคนขับรถเมล์และกระเป๋ารถเมล์เป็นคนในครอบครัวเดียวกันมาช่วยกันทำงาน ส่วนหนึ่งของปัญหาอาจมาจากรายได้ไม่พอใช้ อารมณ์ร้อน กดดัน ต้องทำรอบให้ได้มากที่สุดเพื่อทำเงินให้ตัวเอง
แต่ท้ายสุดเพราะความเร่งรีบและกดดัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมถึงขับรถเร็วเพื่อทำรอบ และมีการแก่งแย่งเข้าป้ายเพื่อชิงผู้โดยสาร
อีกสิ่งที่ทำให้รถเมล์สาย 8 กลายมาเป็นตำนาน เนื่องมาจากเป็นรถเมล์ที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดจากการจัดลำดับของกระทรวงคมนาคม ติดต่อกันหลายปี โดยปัญหาที่มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะที่สุด ในส่วนของพนักงานขับรถ ได้แก่ ขับรถช่องขวาไม่หยุดรับ-ส่ง ขับเร็วปาดซ้ายแซงขวา เบรกแรง ขับประมาทหวาดเสียว ขับรถขวางการจราจร ปิดประตูหนีบผู้โดยสาร
ส่วนพนักงานเก็บเงิน ได้แก่ แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่ทอนเงิน ฉีกตั๋วไม่ตรงตามอัตราที่กำหนด รวมทั้งไล่ผู้โดยสารลงก่อนถึงจุดหมาย