เสี่ยสวนปาล์มสารภาพ ชัก.357ยิงซ้ำเจาะกะโหลกแม่ช้าง

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า จากกการชันสูตรของ สพ.ญ. ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ประจำ สสป.สบอ.2 (ศรีราชา) และทีมสัตวแพทย์ ตรวจชันสูตรซากช้างเพศเมีย อายุประมาณ 13-17 ปี น้ำหนักประมาณ 3 ตัน ที่ถูกนายตวงพร แซ่เตี่ยว อายุ 63 ปี ใช้ปืนลูกซองยิงจนตาย ภายในสวนปาล์มหนองทุเรศ บ้านคลองเตย

เบื้องต้นพบมีใบต้นปาล์มอยู่ภายในช่องปาก ในลักษณะที่ช้างป่าตัวดังกล่าวกัดแน่น อวัยวะภายใน มีอาหารเต็มกระเพาะและลำไส้ ไม่พบว่ามีลูกในท้อง แต่พบว่าเต้านมช้างยังมีการสร้างน้ำนม คาดการณ์ว่าเพิ่งคลอดลูก หรือมีลูกอ่อน และพบเยื่อเมือกสีแดงบริเวณอวัยวะเพศ นอกจากนั้น ยังตรวจสอบพบ บริเวณหน้าผากข้างขวา มีกระสุนปืนชนิด .38 (9 มม.) หรือ .357 ลูกหมุนขวา เจาะทะลุฝังในโพรงกะโหลกที่มีเนื้อสมอง และพบสะเก็ดตะกั่วบริเวณกล้ามเนื้อหน้าผาก ที่คาดว่าเป็นบาดแผลจากกระสุนปืนลูกซอง ส่วนที่ลูกตามีน้ำตาสีแดงไหลเหมือนเลือดติดอยุ่

พ.ต.อ.ณัฐจักร กล่าวว่า จากผลการชันสูตรซากช้างป่า แสดงว่าเป็นช้างแม่ลูกอ่อน ที่เพิ่งคลอดลูก แล้วลูกมันจะอยู่อย่างไร และหากเป็นการโดยฉับพลันขณะยืนกินใบปาล์ม จากการเค้นสอบสวนผู้ต้องหาอีกครั้ง หลังผลชันสูตรพบกระสุนปืนเจาะกะโหลกช้าง นายตวงพร ให้การยอมรับสารภาพเพิ่มเติมว่า หลังจากใช้ปืนลูกซองยิงแต่ช้างไม่ล้ม จึงได้ใช้ปืนพกสั้นไม่มีทะเบียนขนาด.357 ยิงใส่ช้างแม่ลูกอ่อนตัวนี้จนตาย จริง ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหาคือ ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (ช้างป่า)

โดยผิดกฎหมาย และมีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่ออกใบอนุญาตให้ โดยยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา และสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ต่อไป.