พบโครงกระดูกมนุษย์ โบราณ-สมบัติล้ำค่า ฮือฮาชายร่างใหญ่เข้าฝัน แห่ขอหวยอื้อ
จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ตามที่ได้รับแจ้งจุดที่พบโครงกระดูกดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบชาวบ้านกำลังช่วยกันนำโครงกระดูกดังกล่าว ขึ้นมาล้างทำความสะอาดและนำมาเรียงต่อกันพร้อมด้วยเครื่องปั้นดินเผาคล้ายไหโบราณขนาดเล็ก ที่ตอนพบโครงกระดูกอยู่ในสภาพนั่งกอดเข่าถือไหดังกล่าวไว้ และยังพบว่ามีกำไรข้อมือที่เป็นเหมือนทองสัมฤทธิ์สมัยขอมโบราณในสภาพหักครึ่ง รวมทั้งในสภาพฟันกรามของโครงกระดูกดังกล่าว ที่พบมีขนาดใหญ่กว่าคนในปัจจุบันมาก และฟันที่พบยังมีการอุดด้วยทองสัมฤทธิ์เก่าแก่ด้วย
ซึ่งการพบโครงกระดูกกล่าวว่าครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าของที่นาได้จ้างไปจ้างคนงานมาขุดดินบริเวณขอบบ่อบาดาลขึ้นมา เพื่อจะสูบน้ำไปใส่นาข้าว ขณะที่คนงานขุดดินลึกลงไปประมาณ 2 เมตร ถึงกับผงะตกใจ เพราะที่เจอคือโครงกระดูกคล้ายมนุษย์ พร้อมกับไหดินเผาและกำไรมือในสภาพแตกหักจำนวนมาก
หลังจากพากันตั้งสติได้ จึงพากันไปเรียกผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยตรวจดูว่า เป็นกระดูกของคนในยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณ ซึ่งพอชาวบ้านทราบข่าวต่างก็มาพากันเดินทางแห่มาดูกันเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ อายุน่าจะหลายร้อยปี เพราะจุดที่นาชาวบ้านรายนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดโบราณสถานปรางค์กู่เก่าแก่ ของหมู่บ้านที่มีอายุเก่าแก่มานานสมัยขอมโบราณ และชาวบ้านส่วนใหญ่จึงให้ความเคารพมายาวนาน ซึ่งหลายคนบอกถึงไม่มีใครเชื่อก็อย่าลบหลู่ จากนั้นก็นำดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้ เพื่อขอพรเป็นสิริมงคล และขอโชคลาภตามระเบียบกันไม่ขาดสาย
ชาวบ้านหญิงรายหนึ่ง ซึ่งมีที่นาติดกันต่อกับจุดที่พบโครงกระดูก เล่าว่า เวลาตนมานอนเฝ้านาข้าวช่วงกลางคืนทุกครั้ง ก็จะฝันเห็นชายร่างใหญ่คล้ายคนโบราณทุกครั้ง และจะมักจะเจอสมบัติล้ำค่าโบราณบ่อยๆ ในบริเวณนี้ เช่น สากหิน ถ้วย ชามต่างๆ ด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้านำออกไปจากบริแวณนี้
ด้านนายสมยศ เรืองสุข ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวว่า ตามคำบอกเล่ามาต่อปู่ ย่า ตา ยาย สมัยเมื่อก่อนที่บริเวณนี้เคยเป็นชุมชนเก่าแก่สมัยขอมโบราณยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ซึ่งปัจจุบันยังมีปรางค์กู่ เจดีย์เก่าแก่ที่มีร่องรอยแตกหักพังลงมาอยู่ในท้ายหมู่บ้านใกล้กับจุดที่พบครั้งนี้ด้วย และที่ผ่านมาชาวบ้านเองก็ขุดเจอโครงกระดูกและเศษเครื่องปั้นดินเผาบ่อยๆ เบื้องต้นจะจัดให้ชาวบ้านช่วยกันจัดคนมาดูแล ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเวรยาม เพื่อมิให้ใครลงไปจับต้อง เพราะต้องรอประสานเจ้าหน้าที่ทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร มาตรวจสอบโดยละเอียดต่อไปอีกครั้งด้วย