ชิมช้อปใช้ ใครได้ ใครเสีย?

'ชิมช้อปใช้ ใครได้-ใครเสีย?' น่าจะเป็นคำถามที่มาแรงที่สุด สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนาทีนี้ เพราะเป้าหมายของการแจกเงิน 1,000 บาทก็เพื่อหวังที่จะให้ประชาชนนำไปเที่ยว แล้วใช้เงินมากกว่า 1,000 บาท เพื่อจะได้มีเม็ดเงินกระจายลงไปตามร้านค้าท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆที่คนออกไปเที่ยว แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความรู้สึกของคนที่ไปลงทะเบียนเพื่อรับเงิน 1,000 บาทดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต้องการเงิน เพื่อไปเที่ยว! แต่บางส่งนต้องการนำไปซื้อของที่จำเป็นใช้ในชีวิตประจำวัน หรือไปกินอาหารดีดีสักมื้อ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเสียมากกว่า

สำหรับมนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่อพยพโยกย้ายจากถิ่นฐานบ้านเกิด เข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ 'กรุงเทพฯ' เป็นเมืองที่มนุษย์เงินเดือนอาศัยอยู่มากที่สุด แล้วมนุษย์เงินเดือนนี่แหละก็เป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่เข้าไปลงทะเบียนซิมช้อปใช้ เพื่อให้ได้เงิน 1,000 บาท เลือกจังหวัดที่ใกล้กับกรุงเทพฯ หรือในกรุงเทพฯ เพื่อไม่ต้องเสียค่าน้ำมันเสียค่าที่พัก เดินทางไปไกล

ใช้เงิน 1,000 บาทให้คุ้มควรนำไปทำอะไร? พันบาทนี่ก็มากพอที่จะนำไปซื้อของใช้จำเป็น ที่จะตุนอยู่ได้เป็นเดือน โชคเข้าข้าง! ที่ห้างโมเดิร์นเทรดหลายห้างใหญ่ ก็เข้าร่วมลงทะเบียนเป็นร้านค้าในโครงการชิมชอบใช้ ที่รัฐบาลจ่ายเงินให้ด้วย ซึ่งย้อนแย้งว่าแทนที่เงินจะได้เข้าไปสู่รายย่อยเล็กๆ ตามท้องถิ่นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็หมุนกลับมาลงในโมเดิร์นเทรด ห้างขนาดใหญ่ เข้ากระเป๋านายทุนอีกเช่นเคย

ภาพของตะกร้ารถเข็น ที่ถูกทิ้งไว้หน้าเคาน์เตอร์ คิดเงินในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในวันที่ระบบใช้จ่ายเงิน ผ่าน App เป๋าตังค์ล่ม ประชาชนที่ได้เงินฟรี 1,000 บาทที่นำมาซื้อของจำเป็น ก็พร้อมใจกันทิ้งรถ ให้พนักงานตามเก็บ นี่เป็นภาพที่สะท้อนความล้มเหลว! ของนโยบายชิมช้อปใช้ ได้เป็นอย่างดี นโยบายที่คาดหวังจะให้คนออกไปเที่ยวแล้วใช้เงินของตัวเองบางส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในที่สุดคนก็เอามาเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

รัฐบาลพูดเสมอว่าเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทที่แจกให้ 10 ล้านคนคนละ 1,000 บาท ถ้าทุกคนใช้จ่ายเพิ่มอีกคนละ 500 ก็จะเท่ากับว่า มีเงินซึมลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีก 5 พันล้านบาท มันดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ฝันหวาน และเป็นตัวเลขกลมๆที่ตั้งขึ้นมาเป็นตุ๊กตา ไม่รู้จะเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน

ผมคนหนึ่งล่ะ! ที่ล้มเลิกความตั้งใจในการลงทะเบียนชิมช๊อปใช้เพราะความยุ่งยากอย่างเคยที่เขียนลงไปใน #วชิรวิทย์รายวัน เมื่อคราวก่อน นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุดบอกว่า ใช้เงินจะต้องมีการเคารพกติกา ก็เลยงงเหมือนกันว่ามันเกี่ยวอะไรกัน

และแทนที่จะเอาเวลาไปคิดนโยบายที่มันส่งผลต่อเศรษฐกิจให้ดีจริงๆ คนที่เดือดร้อนที่ควรจะต้องช่วยเหลือก่อนเป็นอันดับแรก เกษตรกรประสบภัยแล้ง น้ำท่วม คนยากคนจน รัฐบาลก็มีข้ออ้างเสมอว่า พักหนี้ก็แล้ว ให้เงินก้อน เงินกู้ก็แล้ว ก็ช่วยแล้ว รอบนี้อยากดึงเงินของคนในกระเป๋าชนชั้นกลางไปช่วยเหลือรากหญ้า ซึ่งสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นจริง มันได้ประสิทธิภาพประสิทธิผลสักกี่เปอร์เซ็นต์ พอถึงเวลาประเมินผลงาน ก็จะไปตกแต่งหรูหราดูดีอีกเช่นเคย

สำหรับเงินหมื่นล้านบาทนี่ มันยังทำอะไรได้มากไปกว่าการเอามาโปรยเล่นแจกนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวสุดท้ายก็ไม่ได้เที่ยวจริงๆ

ยอมรับเถอะว่าคิดผิด!