เก็บภาษีความหวาน รอบสองเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ - 30 ก.ย.64
ค่าความหวาน 10-14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 50 สตางค์ต่อลิตร
ค่าความหวาน 14-18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร
ค่าความหวาน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ขึ้นไป เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร
ขณะที่อัตราภาษีความหวานรอบ 2 นี้จะปรับเป็น...
น้ำตาล 0-6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ไม่เสียภาษี
ค่าความหวาน 10-14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร
ค่าความหวาน 14-18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร
ค่าความหวาน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ขึ้นไป เสียภาษี 5 บาทต่อลิตร
โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2564
และการจัดเก็บอัตราภาษีความหวานเป็นผลทำให้ผู้ประกอบการเครื่องดื่มน้ำอัดลม ประกาศแจ้งปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลม "โค้ก"และ "เป๊ปซี่" สูตรมีน้ำตาลแบบดั้งเดิม เฉลี่ยขวดละ 2-3 บาท
และกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เดินหน้าจัดเก็บภาษีความหวานก่อนหน้านี้แล้ว
และอีกครั้งคือ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป เครื่องดื่ม 100 มิลลิลิตร ปริมาณน้ำตาลเกิน 6 กรัม ไม่เกิน 8 กรัม เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร น้ำตาลเกิน 8 กรัม แต่ไม่เกิน 10 กรัม เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร และถ้าน้ำตาลเกิน 10 กรัม เสียภาษี 5 บาทต่อลิตร เป็นอัตราสูงสุด