ปิดฉาก‘หมีดุ’! จนท.เจอตายแล้ว ที่แท้ลูกพลัดหลงแม่ ผ่าซากพบ‘ผักหนาม’
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่เดินไปพบซากหมีควาย เพศเมีย อายุประมาณ 1 ปีเศษ นอนตายอยู่ริมห้วยในท้องที่ ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกล คาดว่าเป็นหมีป่าตัวเดียวกันกับที่ทำร้ายชาวบ้าน จึงได้แจ้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่มาตรวจสอบ และทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯได้ประสานไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) เพื่อส่งทีมแพทย์มาชันสูตรซากหมีป่าดังกล่าว
จากนั้น สพ.ญ.พรรณราย ว่องวัฒนกิจ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 ได้เดินทางมาทำการตรวจชันสูตรซากหมีป่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า หมี มีขนาดความยาวจากปลายจมูกถึงโคนหางเท่ากับ 86 ซม. น้ำหนัก 12.5 กก.สภาพของร่างกายไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยฟกช้ำ สภาพซากเน่าอืดเล็กน้อย กล้ามเนื้อยังนิ่มอยู่
อย่างไรก็ตาม จากการชันสูตรซากพบความผิดปกติ ดังนี้ พบน้ำในช่องท้องสีแดงขุ่น กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว มีเลือดคั่งในหัวใจห้องบน ตับมีผิวขรุขระเป็นเม็ดเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 มิลลิเมตร ลักษณะแข็ง กระจายอยู่ทั่วเนื้อตับ พบอาหาร ได้แก่ ผักหนามในกระเพาะจำนวนมาก จึงสันนิษฐานสาเหตุการตายได้ว่า หมีควายตัวดังกล่าวตายจากการได้รับสารไซยาโนจิไกลโคไซด์ จากผักหนามดิบ
ขณะที่นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า เบื้องต้นจากการผ่าพิสูจน์ คาดว่าหมีน่าจะกินผักหนามที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในธารน้ำ ซึ่งในผักหนามหากสัตว์กินเข้าไปจำนวนมากจะเกิดสารพิษจนทำให้สัตว์ตายได้ และสันนิษฐานว่า ลูกหมีตัวดังกล่าวน่าจะพลัดหลงจากแม่แล้วหาโพรงเพื่อหลบซ่อนตัว แต่ที่ทำร้ายชาวบ้านอาจเกิดจากสัญชาตญาณของสัตว์ที่เมื่อเจอคนเข้าใกล้ก็จะโถมใส่เพื่อป้องกันตัว
ทั้งนี้ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันสัตว์ออกนอกเขตป่าอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากพื้นที่ป่าดงใหญ่ค่อนข้างกว้างแต่เจ้าหน้าที่มีน้อยก็อาจจะมีสัตว์ป่าเล็ดลอดออกมาบ้าง จึงได้ขอความร่วมมือชาวบ้านหากพบเห็นสัตว์ป่าทุกชนิดออกมาให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อจะได้เร่งผลักดันกลับเข้าป่า เพื่อความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์