ชาวเน็ตชื่นชม! “โชเฟอร์รถเมล์สาย A3” พาคนป่วยหนักส่งโรงพยาบาล
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ชาวเน็ตชื่นชม! “โชเฟอร์รถเมล์สาย A3” พาคนป่วยหนักส่งโรงพยาบาล
เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 62) ผู้โดยสารบนรถเมล์ บันทึกภาพเหตุการณ์ระหว่างที่รถ ปอ.A3 ทะเบียน 1-70304 คันนี้ ออกจากสวนลุมพินี มุ่งหน้าไปสนามบินดอนเมือง ขึ้นยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) มาได้ประมาณ 2 กิโลเมตร จู่ๆ ผู้โดยสารคนหนึ่งบนรถมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกและ เพจเฟซบุ๊ก สวพ.91 นำมาแชร์ต่อจนโลกโซเชียลต่างชื่นชม
ผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็ช่วยกันปั๊มหัวใจ ส่วนพนักงานขับรถก็ได้ตัดสินใจขับ รถลงจากโทลเวย์ บริเวณด่านบางเขน แล้วไปกลับรถที่ถนนประเสริฐมนูกิจ เพื่อเร่งนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบลวิภาวดี ได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็ขับรถวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารในเส้นทางปกติ มุ่งหน้าไปดอนเมืองต่อ
วันนี้ (8 ก.ย.62) ทีมข่าวเดินทางไปที่อู่จอดรถ ปอ. ภายในท่ากาศยานดอนเมือง ได้พบกับ นางสาวภคินี ปานทอง อายุ 44 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสาร คันที่เป็นข่าว เจ้าตัวเปิดเผยว่า ขณะที่ออกขับรถตามปกติ ผู้โดยสารคนดังกล่าว (คนที่ป่วย) ขึ้นมากับเพื่อน แถวๆ ดินแดง แล้วเดินไปนั่งบริเวณหลังรถ
หลังจากนั้นไม่นานมีผู้โดยสารคนนี้ก็เริ่มหายใจแรง และค่อยๆ ล้มไปกับพื้น ซึ่งตนหันไปเห็นพอดี จึงบอกให้พนักงานขับรถจอดรถบริเวณข้างทาง ก่อนตนและผู้โดยสารท่านอื่นๆช่วยกันยกร่างผู้โดยสารคนดังกล่าวมานอนอยู่บริเวณกลางรถ ก่อนจะช่วยกันปั้มหัวใจ ซึ่งผู้โดยสารดังกล่าวพยายามที่จะหายใจ
ขณะเดียวกันตนได้ตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1669 เพื่อแจ้งคนหมดสติ และให้มารับผู้ป่วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็สอบถามว่าอยู่ที่ไหน และบอกให้รออยู่ที่เดิม ห้ามไปไหน แต่ตอนนั้นตนหันมาเห็นว่า ผู้ป่วยมีอาการหนักถึงขั้นวิกฤตแล้ว จึงหันไปถามบรรดาผู้โดยสารท่านอื่นๆ ว่าจะส่งโรงพยาบาลหรือไม่ โดยบรรดาผู้โดยสารตอบว่าได้ และไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ก่อนจะตัดสินใจนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลวิภาวดีถนน งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
ตนเป็นกระเป๋ารถเมล์มากว่า 10 ปี ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้เลยซักครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกด้วยซ้ำ แต่ก็พยายามตั้งสติ และทำให้ถูกต้อง เพราะก่อนหน้านี้ตนได้รับการอบรมมาบ้างแล้ว
ด้านนางสาวพิชชา มีเพียร อายุ 52 ปี พนักงานขับรถปรับอากาศ สายA3 (สนามบินดอนเมือง-สวนลุมพินี) กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรีบให้พนักงานเก็บค่าโดยสารแจ้งหมายเลข 1669 ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการสอบถามรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยความที่อาการของผู้ป่วยค่อนข้างหนัก น้ำลายฟูมปาก และชักเกร็ง ขณะเดียวกันเพื่อนของผู้ป่วยได้ตะโกนขึ้นมาว่าไปโรงพยาบาลไหนก็ได้ที่ใกล้ และเร็วที่สุด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น