ตำรวจทำพิลึก!ห้ามประกันตัวเจ้าของร้านขายมือถือรับของโจร

เจ้าของร้านขายมือถือห้างดิโอล์สยาม ร้องถูกตำรวจสน.พระราชวังทำพิลึก

กลั่นแกล้งไม่ให้ประตัวคดีรับของโจร หลังเสี่ยร้านจิวเวอร์รี่ แจ้งจับข้อหารับของโจร ส่งตัวดำเนินคดีพนักงานสอบสวนเรียกค่าประกัน 4 หมื่น หาเงินมาได้แต่เพิ่มวงเงินอีก 4 หมื่นถึง 4 แสน อ้างผบ.ตร.ห้ามประกัน
 

(5ตค.) เวลา 00.00 น.

พ.ต.ท.เมธี ธรรมวิมล พนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.แบงก์ มีสัตย์ อายุ 30 ปี และน.ส.ยอดสร้อย มีสัตย์ 29 ปี สองพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่บ้านปัญจทรัพย์ ถ.กาญจนาภิเษก แขวงและเขตทวีวัฒนา เจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้าน"เพอร์เฟกต์เทเลเนอร์แพท" ตั้งอยู่บนชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าดิโอล์สยาม หลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราษฎร์ จับกุมตัวน.ส.แบงก์ ดำเนินคดีในข้อหารับซื้อของโจร และส่งตัวให้สน.พระราชวัง ดำเนินคดี
 

น.ส.ยอดสร้อย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2549 นางสุภาวดี กุลศักดิ์ อายุประมาณ 30 ปี และนางอติภา วิชัยดิษฐ์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของร้านจิวเวอร์รี่ ของนายขวัญชัย พลังนันทกุล ได้นำแหวนงาช้างวงละประมาณ 3 พันบาท มาให้ตนกับน.ส.แบงก์ ซึ่งตนและน.ส.แบงก์ ก็นำมาใส่อย่างเปิดเผย จนต่อมานางแก้วตา พลังนันทกุล ภรรยาของนายขวัญชัย มาเห็นตนใส่แหวนของร้าน นางแก้วตา จึงไปแจ้งความที่สน.พระราชวัง ให้ดำเนินคดีกับนางสุภาวดี และนางอติภา ในข้อหาลักทรัพย์ ส่วนตนและน.ส.แบงก์ ถูกกันไว้เป็นพยาน แล้วก็คืนแหวนให้กับนายขวัญชัย และนางแก้วตา ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 

น.ส.ยอดสร้อย กล่าวอีกว่า

จนกระทั่งเวลา 15.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม นายขวัญชัย ก็นำชายฉกรรจ์ 2-3 คน มาทำการจับตัวน.ส.แบงก์ พี่สาวของตนที่บริเวณลานจอดรถสามยอด ตนจึงโทรศัพท์ไปแจ้ง 191 เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ทางตำรวจ 191 จึงประสานไปยังตำรวจสน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวน.ส.แบงก์ มาส่งให้กับพ.ต.ต.สุรพันธ์ สุวรรณประดิษฐ์ พนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง ดำเนินคดีในข้อหารับของโจร ซึ่งตนก็แปลกใจมากเพราะตอนนั้นนายขวัญชัย ยืนยันว่าจะกันตนทั้งสองคนเป็นพยาน แต่มาในวันนี้กลับมาแจ้งข้อหากับน.ส.แบงก์ ว่ารับของโจร
 

ดิฉันก็ประสานมาที่พ.ต.ต.สุรพันธ์ เพื่อขอประกันตัวพี่สาวเพื่อไปต่อสู้ในชั้นศาล

แต่พ.ต.ต.สุรพันธ์ บอกว่าต้องนำเงินมาประกัน 4 หมื่นบาท พอดิฉันหาเงินมาได้เพื่อมาประกันตัว พ.ต.ต.สุรพันธ์ ก็บอกว่าเพิ่มเป็น 8 หมื่น และบอกต่ออีกว่า 1.2 แสนบาท ดิฉันก็ไปหาเงินมาได้ 1.2 แสนบาท เมื่อมาถึงก็บอกอีกว่าเพิ่มเป็น 4 แสนบาท ดิฉันคาดว่าจะได้ประกันตัว แต่ พ.ต.ต.สุรพันธ์ อ้างบอกว่าทางผู้กำกับไม่ให้ประกัน และอ้างอีกว่าเป็นคำสั่งของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าพี่สาว ไม่ได้ฆ่าคนตายเป็นคดีเล็กน้อยแต่ทำไมถึงไม่ให้ประกันตัวดิฉันเลยไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครจึงอยากจะขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน"น.ส.ยอดสร้อย กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.)ดูแลด้านการสอบสวน

เพื่อสอบถามบรรทัดฐานในการประกันตัวผู้ต้องหา โดยพล.ต.ต.เจตน์ ได้ประสานสอบถามรายละเอียดมายังผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามไปยัง พ.ต.ท.เมธี ธรรมวิมล พนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง เกี่ยวกับลายละเอียดที่เกิดขึ้นจนทราบเรื่องราวทั้งหมดจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เมธี ให้ประกันตัวนางสาวแบงก์ ในวงเงิน 4 หมื่นบาท