เปิดโพสต์แรกหลังสึก อดีตพระจูเลียน ยอมรับเสพเมถุน ชี้พระก็เป็นคน มีหัวใจ-มีฮอร์โมน

 

ต่อมาตนได้บอกผู้นำหมู่บ้าน และแจ้งให้พระอุปัชฌาย์ทราบเพื่อขอคำปรึกษา พระอุปัชฌาย์แนะนำให้สึกจากความเป็นพระเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ยังห่มจีวรปฏิบัติธรรมช่วยเหลือชาวบ้านปกติ แล้วก็ไปขอบวชเป็นสามเณร

 

"พระก็เป็นมนุษย์มีจิตใจ มีฮอร์โมน พระทุกรูปที่บวชยังหนุ่มอยู่บางครั้งก็อยากมีแฟน เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งบาปแน่นอน อยากจะขอโทษ มันเป็นเรื่องในอดีต ส่วนที่กล่าวอ้างว่าตนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มพลังในลัทธิไม่เป็นเรื่องจริง ตอนนี้รู้ว่าคนไทยโกรธมาก อาจคิดว่าเป็นคนไม่ดี ตนเป็นคนมีเมฆตา ทุกคนในพื้นที่รักตนมาก ตนยอมรับทำผิดจริง เรื่องราวเกิดขึ้นมานานแล้ว รู้สึกผิด เสียใจที่ทำไม่ดี" 

 

โดยหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว หลังจากนี้จะเดินทางกลับไปที่ อ.สบเมย เพื่อสานต่องานบริจาคสิ่งของให้กับเด็ก ๆ และผู้ยากไร้ให้เสร็จในช่วงวันที่ 14-16 ส.ค.นี้ จากนั้นจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดร้อยเอ็ดประมาณ 3-4 เดือน และจะกลับมาที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านปู่ทา อ.สบเมย โดยตั้งใจนุ่งขาวห่มขาวอยู่ปฏิบัติธรรมช่วยเหลือชาวบ้านต่อไปเพราะมีจิตที่สงบ ไม่สำคัญว่าจะใส่ชุดอะไร

"ข้าพเจ้าอดีตพระจูเลียน ขอรับว่าข้าพเจ้าได้กระทำความผิดพระธรรมวินัยจริง ที่ละเมิดพระธรรมวินัยเสพเมถุนกับหญิง เมื่อหลายปีที่แล้วและเสียใจจากการกระทำดังกล่าว จึงตัดสินใจสละจากสมณะเพศในวันนี้ เป็นการไถ่โทษและสำนึกผิด

แต่ข้าพเจ้ายังมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามิเสื่อมคลาย หากมีครูบาอาจารย์ท่านใดเห็นว่า ข้าพเจ้ายังมีศรัทธาเหล่านี้อยู่จริง ได้โปรดแนะนำสั่งสอน ชี้แนะ ให้ข้าพเจ้าได้เห็นได้รู้หนทางที่ถูกที่ตรงด้วยเถิด

 ข้าพเจ้าจะไม่ร้องขอความเมตตาใดๆ จากผู้ใด นอกจากยอมรับและสำนึกผิดอย่างที่สุด ที่ทำให้ผู้มีศรัทธาแก่ข้าพเจ้าต้องเกิดความผิดหวัง ข้าพเจ้ากราบขอโทษอย่างสุดหัวใจ และไม่ว่าโลกจะตัดสินในความเห็นผิดนี้ของข้าพเจ้าอย่างไร ข้าพเจ้าขอน้อมรับด้วยความกล้าหาญ และขอรับผลของกรรมนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว

จากนี้ต่อไป ข้าพเจ้าก็จะขออุทิศตัวช่วยเหลือ ผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดารต่อไป ข้าพเจ้าไม่เคยกระทำผิดในเรื่องของเงินทอง ข้าพเจ้าไม่สนใจเรื่องเงินทอง ข้าพเจ้าสนใจที่จะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากเพียงเท่านั้น ข้าพเจ้าไม่อยากครอบครองสิ่งใดมากมายไปกว่า การได้อุทิศตนช่วยเหลือคนเหล่านี้ และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าจะขอทำความดีนี้ต่อไป เพื่อช่วยเหลือคนยากไร้เหล่านี้ เพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับความผิดที่ข้าพเจ้าได้กระทำให้ผู้ที่มีศรัทธาแก่ข้าพเจ้าเสียใจ ทุกข์ใจ ร้อนใจ ข้าพเจ้ายินดีชดใช้ด้วยการทำสิ่งนี้ และโปรดมีเมตตาให้อภัยให้ข้าพเจ้า”

สุดท้ายนี้ข้าพเจ้า ขออโหสิกรรมต่อทุกๆ ท่าน ที่ข้าพเจ้าได้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ และขออุทิศชีวิตที่เหลืออยู่ในเพศฆราวาสช่วยเหลือผู้ยากไร้และยังคงศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงไม่เสื่อมคลาย"