อ๊อฟฟี่ แม็กซิม เปิดใจ ไม่ได้โกงเงินใคร ขอโทษทุกเรื่องดราม่า รับ! คิดน้อยไป
ล่าสุด รายการโหนกระแส โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "อ๊อฟฟี่ แม็กซิม" ทุกเรื่อง โดยสาวอ๊อฟฟี่มาพร้อม "ทนายนิติธร แก้วโต" หรือ "ทนายเจม
คุณหายดีแล้ว?
อ๊อฟฟี่ : "หายดีแล้วค่ะ ไม่สบายค่ะ"
คุณแยกเงินเป็น 2 ครั้ง ส่วนแรกคือวันที่คุณไปห้องน้องเขา และไปถ่ายคลิปตรงนั้นเอาออกมาให้คนบริจาค?
อ๊อฟฟี่ : "ใช่ค่ะ ในคลิปนั้นท้ายคลิปเป็นบัญชีคุณแม่น้องเขาเลย แล้วหนูก็มาโพสต์ทีหลังจะช่วยเรื่องเครื่องหายใจ"
ทนายเจมส์ กรณีนี้เราเช็กได้มั้ย ว่าเงินโอนเข้าบัญชีส่วนตัวกับโอนเงินมาบริจาค?
ทนาย : "โดยปกติต้องดูก่อนว่าธรรมชาติคุณอ๊อฟฟี่เขาทำอะไร เขาอัดคลิปอะไรก็แล้วแต่ มันจะเป็นยอดใหญ่ มันจะมีเรตของมันอยู่ 1 แสน 2 แสน 5 หมื่น เป็นยอดเงินค่าจ้าง เป็นปกติของผู้ว่าจ้าง ถ้าโอนบริจาคก็อาจเป็นไปได้ว่าก้อนใหญ่ๆ หมื่นนึงมีมั้ย ก็อาจจะมี แต่ก็ต้องไปตรวจสอบ"
อ๊อฟฟี่ : "ตอนนี้เพื่อความบริสุทธิ์ใจ เอาเงิน 2.1 แสนไปบริจาคที่อื่น ที่ที่น่าสงสารและน่าช่วยเหมือนกัน"
คุณรู้สึกผิดมั้ย ที่เอาเงินเข้าบัญชี?
อ๊อฟฟี่ : "หนูรู้สึกผิดตรงที่หนูคิดน้อยไป จริงๆ ควรโอนให้แม่เขาไปเลย เพราะเจตนาหนูอยากสะสมเงินตรงนี้ไปซื้อเครื่องมือเลย คิดน้อย มันไม่ควรเอาเข้าบัญชี หนูกะว่าเก็บเงินเป็นก้อน แล้วเอาให้แม่เขาทีเดียวเลย"
เรื่องซื้อห้องให้พ่อปู่?
อ๊อฟฟี่ : "พ่อปู่เป็นร่างทรงค่ะ"
คุณไปเรี่ยไรเงินเพื่อนๆ หลักหมื่นหลักแสนจริงมั้ย?
อ๊อฟฟี่ : "ไม่ได้ไปเรี่ยไรนะคะ หนูป็นตัวตั้งตัวตี ที่จะรีโนเวทห้องนี้ให้พ่อ และซื้อห้องนี้ให้พ่อ เพราะพ่อยังเช่าอยู่ พ่อบอกว่าพ่อมีปัญหาเรื่องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ก็อยากให้พ่อสบาย อยู่ในห้องโดยไม่จ่ายค่าเช่า"
อ๊อฟฟี่ : "เขาเป็นอาจารย์ไงคะ หนูอยากให้พ่อสบายขึ้น นับถือเขาค่ะ เขาสอนให้หนูสวดมนต์ทำบุญก็คนี้แหละค่ะ"
คุณมีงานจากเขามากขึ้นมั้ย ที่เขาปลุกเสกให้?
อ๊อฟฟี่ : "เขาเป็นสายขาวเลย สอนสวดมนต์ กรวดน้ำให้ถูกวิธี ไม่ใช่ร่างทรงค่ะ พอชีวิตหนูดีขึ้น หนูก็บอกว่าหนูอยากรีโนเวทห้องนี้ให้ใหม่ พ่อบอกว่าทำไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ห้องของเรา เช่าเขาอยู่ หนูก็เลยไปทำเรื่องซื้อห้องนั้น ให้เป็นชื่อตัวเองก่อนแล้วค่อยรีโนเวท แต่หนูไม่ทันคิด ตอนนั้นหนูดำเนินเรื่องเองหมดเลย ทั้งการติดต่อเจ้าของห้องซึ่งยากมาก"
ห้องนี้เท่าไหร่?
อ๊อฟฟี่ : "ห้องนี้หมดไปเกือบล้านนะคะ รวมค่ารีโนเวท เฉพาะค่าห้อง 4 แสน"
เอาเงินมาจากใครบ้าง?
อ๊อฟฟี่ : "90 เปอร์เซ็นต์คือของหนูค่ะ หนูกล้าพูดได้เลย"
แล้วที่เขาบอกว่าเขาบริจาคมาช่วยคุณ บางคนเป็นแสน?
อ๊อฟฟี่ : "ตอนนั้นหนูพูดกับเพื่อนว่า เราทำบุญร่วมกันมั้ย หนูจะช่วยพ่อนะ บางคนโอนมา 4 แสน ค่ารีโนเวทเกือบล้านเพราะตอนแรกเป็นห้องที่เก่ามาก หนูทำใหม่หมดเลยทั้งห้องเลย"
อ๊อฟฟี่ : "ใช่ค่ะห้องเป็นชื่อหนู แล้วหลังจากนั้น พ่อก็อยู่อย่างสบาย บอกให้พ่อไม่ต้องจ่ายค่าห้องอีกแล้ว เพราะหนูซื้อมาเรียบร้อยแล้ว"
โอนให้เขาหรือยัง?
อ๊อฟฟี่ : "โอนแล้วค่ะ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา"
ทำไมเพิ่งโอน เพราะเรื่องแดงหรือเปล่า?
อ๊อฟฟี่ : "หลายคนอาจคิดแบบนั้นแต่เจตนาหนูไม่ใช่แน่นอน เจตนาหนูแค่ให้พ่อมีที่อยู่โดยไม่ต้องเสียเงิน ลดค่าใช้จ่ายพ่อ แต่ถ้าวันนี้เขามาท้วงติง ว่าเธอเอาไปเป็นของเธอหรือเปล่า หนูก็ไม่จำเป็นต้องเอาห้องนั้นเป็นของตัวเอง เพราะความต้องการหนูจะให้เขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่แค่ว่าไม่ได้คิดว่าชื่อควรเป็นชื่อพ่อเพราะตรงนี้หนูอยากให้พ่ออยู่สบาย คนโอนตังค์มาก็ร่วมด้วยช่วยกัน"
มันเหมือนคุณคิดแทนคนอื่นตลอด?
อ๊อฟฟี่ : "ใช่ค่ะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเจตนาดีของหนูนะคะ"
คุณอยากได้เองหรือเปล่า?
อ๊อฟฟี่ : "หนูจะเอาไปทำไมคะ แค่ห้องนี้ กับอาชีพที่หนูทำอยู่ กับบ้านที่หนูมีอยู่"
บ้านคุณกำลังปลูกอยู่หลักร้อยล้าน?
อ๊อฟฟี่ : "ไม่ถึงค่ะ เกือบๆ ค่ะ"
คุณจะบอกว่าห้อง 4 แสนไม่เอาไว้หรอก?
อ๊อฟฟี่ : "แน่นอน หนูตั้งใจซื้อให้พ่อจริงๆ หนูไม่เอามาแลก หนูไม่มีเจตนาจะเอามาเป็นของหนู"
อ๊อฟฟี่ : "อันนี้หนูรู้สึกผิดจริงๆ และอยากขอโทษเพื่อนด้วย ที่ไม่ยอมโอนให้เป็นชื่อพ่อให้จบสิ้นไปซะ หนูรู้สึกแค่ว่าตอนนี้พ่ออยู่สบาย ไม่ต้องเช่าแล้วนะ หนูคิดแค่นั้น แล้วก็เข้าใจว่าเพื่อนต้องรู้สึกไม่พอใจ"
กรณีคุณคิดเอง เพราะคุณมองตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาลหรือเปล่า เป็นเจ้าแม่ มีงานแล้วกระจายออก?
อ๊อฟ : "ไม่จริงค่ะ การกระจายงานออก หมายถึงหนูอาเสนอชื่อคนนี้ๆ ก็เหมือนช่วยกันหางานค่ะ"
คุณเลยเอาแต่ใจตัวองหรือเปล่า?
อ๊อฟฟี่ : "เอาแต่ใจตัวเองนิสัยส่วนตัวค่ะ ยอมรับ หนูคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ถึงจะดี ทุกครั้งคิดไปเองไม่ได้คิดร้าย ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับใคร แต่รู้สึกว่าไปในทางนี้สิถึงจะดี"
เรื่องนี้พัวพันไปถึงเรื่องคุณขนเพชร เคยดูมั้ย?
อ๊อฟฟี่ : "ไม่กล้าดูค่ะ เพราะเจ็บมาก"
เขาบอกคุณเอาเงินบวชเขาไป?
อ๊อฟฟี่ : "อันนี้ไม่จริงเลยสักนิดเดียว"
อ๊อฟฟี่ : "เงินถูกใส่ย่ามหมดแล้วค่ะมีรูปถ่ายเอาไว้ค่ะ แล้วมีรูปใส่ย่าม 1 หมื่นบาท อันนั้นมาจากเจ้าของแบรนด์ที่เป็นคนสนิทหนูเลย"
มีคนออกมายืนยัน ชื่อคุณก็อตว่าคุณไปตบหน้าขนเพชร?
อ๊อฟฟี่ : "ไม่มีค่ะ ไม่มีแน่นอน หนูอยากจะเล่าเค้าโครงขนเพชรให้ฟังก่อน ตั้งแต่เขามาอยู่กับหนู เขามาทำงานเป็นครั้งคราว ก็โยนงานให้แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก หลังจากนั้นเขาก็พูดว่าคู่หูเขาไม่โอเค คู่หูเขาเอาเปรียบ ผจก.โกงเงิน จนทำให้ทีมหนูมี 20-30 คนรู้สึกสงสารเขามากๆ เราก็เลยบอกว่าเอางี้มั้ยล่ะมาอยูกับเราแล้วกัน หลังจากนั้นเป็นข้อตกลงกันเลยว่าคลิปไหนลูกค้าไม่ได้เลือกหนูจะแบ่งค่าตัวให้เขาเลย 5 พัน แต่คลิปไหนลูกค้าจ่ายให้ 2 หมื่น หนูก็จะจ่ายให้ 2 หมื่นๆๆ ที่หนูหายไปรักษาตัว หนูก็ได้ไปขอสเตจเมนต์ย้อนหลังมา 1 ปีกว่า ชี้ชัดไปเลยว่าหนูโอนให้เขาเท่าไหร่บ้าง ถ้าหนูคิดจะโกงเขาจริงๆ หนูจะให้เขา 5 พันไปเรื่อยๆ อย่างนี้เหรอ อีกอย่างเงินแค่นี้หนูไม่เอามาแลกกับชื่อเสียง"
อ๊อฟฟี่ : "อันนี้ไม่จริงเรื่องตรงนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เกิดจากเขาก่อหวอด ตั้งกรุ๊ปไลน์มาด่าหนูว่าหนูโกง สาปแช่งเรื่องลูกด้วย ด่าแรงมาก เขาไม่รู้ตัวว่าหนูอยู่ในกรุ๊ปนั้นมา 2 เดือน หนูก็ให้ด่าไปเรื่อยๆ พอมาสาปแช่งลูกแฟนหนูก็ไม่ยอม ก็ออกมาพูดอะไรบางอย่างจนเขากลัว ก็เลยมีการขอขมา ถ้าสังเกตทั้งแต่งงาน ไปไหนมาไหนก็แล้วแต่ เขาจะพูดเสมอว่าหนูทำกับแม่ไว้เยอะมาก ทำไมแม่ดีกับหนูขนาดนี้ ทำไมแม่อภัยกับหนู ขนขอขมามา 4 รอบแล้ว ทำไมถึงขอขมา ถ้าเขาคิดว่าหนูโกง เคยออกจากหนูไปแล้ว แล้วกลับมาขอทำงานใหม่ หนูก็ให้โอกาสเขา เขาจะกลับเข้ามาทำไม ถ้าหนูโกงเขา"
ถ้าเราไม่ดีจริงคงไม่กลับมา?
อ๊อฟฟี่ : "หนูให้อภัยทุกครั้งที่เขากลับมา เขาเคยออกไปทำเพลง แต่เจ็บสุดคือเขาบอกว่าถ้ามึงออกไปจากกูจะเหยียบให้จมดิน หนูไม่เคยพูดเลย ถ้าสมมติหนูทำแบบนั้นจริงๆ น้องรู้ดีอยู่แก่ใจว่าความลับน้องเขาคืออะไร หนูสามารถทำได้ แต่หนูก็ไม่ทำ หนูก็ขอไม่พูด ถ้าหนูจะทำจริงๆ ในวันเขาขอออกไปทำเพลง ทำไมเขายังอยู่ดี สบายอยู่"
ถ้าเปิดความลับนี้ออกมาเป็นยังไง?
อ๊อฟฟี่ : "พังกันไปข้างนึงเลยค่ะ แต่หนูคิดว่าหนูไม่มีเจตนาตรงนั้น หลังเขาทำงานกับหนูเขาขอโทษขอขมาว่าเขาเข้าใจผิด ที่คิดว่าหนูไปดีลลูกค้าเรียก 2 หมื่นโน่นนี่นั่น แต่ละคลิปมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก หนูจ่ายทั้งค่าโปรดักชั่น ค่าตัดต่อ ค่าออกกอง สถานที่ ยิ่งไปต่างจังหวัดบางทีเข้าเนื้อหนูเลย แต่เขาก็ได้รับ 5 พันอยู่"
ซองงานบวชไม่ได้เอาไป ใครออกเงินค่างานบวช?
อ๊อฟฟี่ : "เขาบอกหนูจะเอาเงินซอง ถ้าหนูอยากเอาเงินซอง หนูจะช่วยเขา 2.5 แสนทำไม 2.5 แสน คือค่างานบวช ตั้งแต่มีชีวิตมา เป็นเจ้าภาพงานบวชเยอะมาก แพงสุดเลย อลังการสุดคือแสนกว่าบาท แต่ของเขาเนี่ย เขาแจงรายละเอียดหนูมา ที่ทุกคนไม่เคยรู้มาก่อนเลย แล้วเขาไปคิดเองจัดแจงทุกอย่างว่าจะทำแบบนี้ โดยที่หนูไม่เคยรู้ แต่หนูบอกแล้วว่าจะช่วยเป็นเจ้าภาพ เขากางกระดาษมาวันนั้น 5 แสนเกือบ 6 แสน"
อ๊อฟฟี่ : "ตอนแรกช็อกก่อน ทั้งทีมบอกว่าบวชคนเดียวเนี่ยนะ ใช้เงิน 6 แสน หนูทำอะไรไม่ถูก ก็กัดฟันบอกว่าช่วยได้ 2.5 แสนนะ ก็มีข้อความที่เขาบอกว่าขอบคุณมากนะ"