ปรากฏการณ์น้ำโขงแห้ง เผยโฉมหาดทรายเกล็ดพญานาค
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ปรากฏการณ์น้ำโขงแห้ง เผยโฉมหาดทรายเกล็ดพญานาค
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำโขงแห้งผิดธรรมชาติ ยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง หลังระดับน้ำโขงลดต่อเนื่องในช่วงฤดูฝน ถือเป็นความผันผวนทางธรรมชาติน้ำโขงหนักสุด รอบกว่า 50 ปี ล่าสุดระดับน้ำโขงเหลือเพียงแค่ 1.90 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่งประมาณ 10 เมตร คือที่ 13 เมตร และยังมีแนวโน้มที่จะลดระดับต่อเนื่อง เพราะฝนทิ้งช่วง บวกกับผลกระทบการกักน้ำของเขื่อนกั้นน้ำโขงประเทศจีน โดยล่าสุดหลังระดับน้ำโขงลดต่อเนื่อง
พบว่าบริเวณน้ำโขงท้ายเมืองในเขตเทศบาลเมืองนครพนม พบว่ามีหาดทรายเกิดขึ้นกลางน้ำโขง เป็นพื้นที่กว้าง หลาย 100 ไร่ ระยะทางยาว กว่า 1 กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อน เป็นปัญหาในการเดินเรือ และออกเรือหาปลาของชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่ไม่เคยพบมาก่อน ในช่วงฤดูฝน
ขณะเดียวกันหลังเกิดหากทรายกลางน้ำโขง ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ชาวบ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อน เนื่องจากหาดทรายท้ายเมือง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หาดทรายทอง ศรีโคตรบูรณ์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในช่วงหน้าแล้งเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายนทุกปี
จะพบเห็นหาดท้ายเมืองโผล่ในช่วงฤดูแล้งเท่านั้น และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกปี ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวชมพักผ่อนธรรมชาติสองฝั่งโขง แต่ช่วงนี้ถือว่าผิดธรรมชาติ ในช่วงฤดูฝนแต่มีหาดทรายโผล่กลางน้ำโขง
นอกจากนี้ยังเป็นที่แปลกใจของชาวบ้าน เนื่องจากมีหาดทรายเยอะกว่าช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา ที่สำคัญบริเวณหาดทรายดังกล่าวยังเป็นหาดทรายที่มีความแตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากเม็ดทรายจะเป็นสีเหลืองทอง และพอเกิดหาดทรายจะมีลักษณะเป็นคลื่นที่ถูกน้ำซัด
เวลามองและถ่ายภาพ ออกมาจะเป็นลักษณะเหมือนเกล็ดพญานาค และมองคล้ายลำตัวพญานาคยาวตามลำน้ำโขง ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดแปลก ทำให้ชาวบ้านแห่ไปชื่นชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ด้าน นายอาทิตย์ พนาศูนย์ อายุ 65 ปี ประธานชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปีนี้ถือว่าระดับน้ำโขงผันผวนมากสุดในรอบเกือบ 100 ปี โดยจากการศึกษาข้อมูล พบว่าปัจจัยสำคัญมาจากโครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำโขงในประเทศจีน รวมถึงใน สปป.ลาว ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ถือเป็นสัญญาณอันตราย
ในอนาคตปัญหาขาดแคลนน้ำจะกระทบรุนแรงมากขึ้น และยากที่จะแก้ไข เนื่องจากประเทศต้นน้ำมีการควบคุมระบบน้ำโขงจากเขื่อน ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ที่สำคัญที่น่าห่วงมากที่สุดคือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ชาวลุ่มน้ำโขงจะเปลี่ยนไป ปลาน้ำโขงจะหายากมากขึ้น รายได้ลดลง เนื่องจากช่วงฤดูฝนเป็นฤดูกาลวางไข่ ธรรมชาติปลาน้ำโขงจะขึ้นไปวางไข่ต้นน้ำลำน้ำสงคราม แต่น้ำโขงแห้งปริมาณปลาลดลงแน่นอน ซึ่งชาวลุ่มน้ำโขงจะต้องรับสภาพ เพราะยากที่จะหาทางแก้ไข
เนื่องจากเป็นผลกระทบที่เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนของประเทศจีน หากมีการแก้ไขหารือต้องเป็นระหว่างประเทศ จึงยากที่จะหาทางแก้ไข
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น