แฉยับ! “ครูข้ามเพศ” โดนบีบให้ออกข้าราชการ มิหนำซ้ำถูกด่า “ขยะที่มีชีวิต”


แฉยับ! “ครูข้ามเพศ” โดนบีบให้ออกข้าราชการ มิหนำซ้ำถูกด่า “ขยะที่มีชีวิต”


นายนาดา ไชยจิตต์ นักสิทธิมนุษยชนด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของครูคนหนึ่งที่ถูกผอ.โรงเรียนกดดันเนื่องจากเป็น ครูข้ามเพศ ระบุว่า เหตุเกิด ณ จังหวัดแห่งหนี่งในภาคอีสาน จังหวัดที่มีสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!

จังหวัดที่ความเจริญทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมน่าจะส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเคารพความแตกต่างหลากหลายและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่ใครจะคิดว่า...มันจะเกิดเหตุการณ์ที่น่ารังเกียจเช่นนี้เกิดขึ้น

เมื่อการแต่งกายตามเพศสภาพในฐานะข้าราชการครู คือ ต้นเหตุที่ทำให้ครูข้ามเพศคนหนึ่ง ต้องตกอยู่ในสถานะที่อาจพ้นจากการเป็นข้าราชการ เพราะผลการประเมินที่มีคะแนนในระดับที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินนั้นเพียงเพราะเธอยืนยันสิทธิในการแต่งชุดข้าราชการหญิงในฐานะบุคคลข้ามเพศที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558



แฉยับ! “ครูข้ามเพศ” โดนบีบให้ออกข้าราชการ มิหนำซ้ำถูกด่า “ขยะที่มีชีวิต”


ขยะที่ไม่มีชีวิตยังเก็บยังเผาได้แล้วขยะที่มีชีวิตหละ แชทข้อความจากแอพลิเคชั่นไลน์ คือหนึ่งในหลักฐานชิ้นแรก ๆ ที่นาดาได้รับมาพร้อมกับเสียงสั่นครือและคราบน้ำตาของ ครูบอล คุณอุกฤษฏ์ จัดสนาม ครูสาวข้ามเพศที่ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ซึ่งเป็นตำแหน่งวิทยฐานะแรกของอาชีพข้าราชการครู

จากการลงมือเก็บข้อมูลอย่างจริงจังนับตั้งแต่เริ่มมีเค้าลางว่าเธออาจจะถูกเลือกปฏิบัติอย่างรุนแรงที่จะส่งผลกระทบต่ออาชีพครูที่เธอรัก นาดาพบว่าระดับการเลือกปฏิบัติค่อยๆเพิ่มความรุนแรงจนถึงขั้นกระทบต่อสวัสดิภาพและความก้าวหน้าในหน้าที่

หนังสือตักเตือน คือมาตรการขั้นแรกเพื่อตอบสนองความเกลียดชังของผู้บริหาร ด้วยการสร้างหลักฐานะเท็จถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งวันเวลาสถานที่ที่กล่าวอ้างนั้น สามารถตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ว่าเธอนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการตักเตือน เพื่อจะเปิดท้ายด้วย "แต่งกาย ไว้ทรงผม ไม่เหมาะสมกับเพศสภาพ ที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีกับนักเรียน"





แฉยับ! “ครูข้ามเพศ” โดนบีบให้ออกข้าราชการ มิหนำซ้ำถูกด่า “ขยะที่มีชีวิต”


การประเมินครูผู้ช่วย คือมาตรการขั้นที่สอง ผลคะแนนของเธอนั้นถูกกดจนต่ำชนิดที่เรียกว่า เธอคงไม่ได้ผุดได้เกิด อีกต่อไป เพราะถ้าการประเมินผลครูผู้ช่วยไม่ผ่าน เธออาจต้องพ้นจากการเป็นข้าราชการภายในระยะเวลา 5 วัน ในระหว่างเข้ารับการประเมินมีการยกเหตุผลต่าง ๆ มากมายเพื่อจะบอกว่า เธอ คือบุคคลที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นครู และทุกครั้งเหตุผลลงท้ายคือ "เพศสภาพอย่างเธอไม่มีใครยอมรับ"



แฉยับ! “ครูข้ามเพศ” โดนบีบให้ออกข้าราชการ มิหนำซ้ำถูกด่า “ขยะที่มีชีวิต”


ในวันที่เธอต้องเข้าไปรับทราบผลคะแนนที่ผ่านการประเมินด้วยอคติต่ออัตลักษณ์และเพศสภาพแล้ว เธอยังต้องเผชิญหน้ากับถ้อยคำที่แสดงออกถึงการเหยียดเพศจากบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บังคับบัญชา"ถ้า

ไปงานภายนอกไม่ต้องเอาไปเพราะ ผอ. ไม่รู้จะอธิบายสังคมว่ายังไง?"
"ทำไมคะ?" "ก็รูปร่างหน้าตาแบบนี้ใครเขาจะมอง"



ดูเหมือนว่าผู้ละเมิดอาจยังหลงระเริงกับอำนาจบังคับบัญชาที่ตนมี จึงได้ออก มาตราขั้นที่สาม กดดันให้ครูบอลต้องเซ็น MoU เพื่อปรับปรุงพฤติกรรม ซึ่งเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวอ้างมานั้นยังจบปิดท้ายด้วย

"ข้อ 1.9 ให้ไว้ผมและแต่งกาย เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการครู ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการไว้ผมและการแต่งกายของข้าราชการลูกจ้างและผู้ที่ทำทำงานในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2516 และพระราชบัญญัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา..."

โดยมีการอ้างหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร ๐๑๐๖/๑๗๓๔ เรื่องขอหารือแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งกายของข้าราชการครู #หากไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ให้ผู้บังคับบัญชาถือว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง #ให้ลงโทษทางวินัยตามควรแก่กรณี



มาตรการใช้ความรุนแรงเชิงโครงสร้างลำดับสุดท้าย คือ การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูฯ บุคคากรครูในสังกัดทั้งหมด 28 คน เธอคือคนเดียวที่ได้รับเงินเดือนขึ้นเพียง 1% เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 180 บาท

การแสดงออกถึงความเกลียดชังต่อคนข้ามเพศนั้นมีหลากหลายรูปแบบ แต่มันมีสารตั้งต้นที่เกิดจากอคติ การตีตรา และเมื่อมันมีปริมาณสูงขึ้นจนถึงระดับที่บุคคลที่หัวใจเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อคนข้ามเพศจะรับไหว มักจะสำรอกออกมาผ่านการกระทำที่เรียกว่า "การเลือกปฏิบัติ กีดกัน และ ความรุนแรง"

โดยที่เครื่องมือสำคัญที่ทำให้บุคคลเหล่านี้กระทำโดยปราศจากสำนึกคือ การใช้อำนาจบริหารในฐานะผู้บังคับบัญชาบวกกับการอ้างกฎ ระเบียบ เพื่อลงโทษทางวินัยตั้งแต่ระดับการออกหนังสือตักเตือน ไปจนถึงการประเมินว่ามีความประพฤติบกพร่อง ผิดวินัย บีบบังคับทุกวิถีทาง ถ้าไม่ลาออกไปเอง ก็จะถูกบีบบังคับทุกวิถีทางจนอยู่ไม่ได้และต้องลาออกจากหน้าที่การงานไปในที่สุด




เรายังจะยอมให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ที่พร้อมต่อยอดความรู้ ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ต่อไปกระนั้นหรือ หรือเธอมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ต่ำกว่าบุคคลทั่วไป เธอถึงถูกทีมผู้บริหารของโรงเรียนใช้วาจากับเธอว่า "ขยะที่ไม่มีชีวิตยังเก็บยังเผาได้ แล้วขยะที่มีชีวิตหละ..."

เครดิตแหล่งข้อมูล : khaosod.co.th



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ :
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.146.3.101

203.146.3.101,,203.146.3.101 ความคิดเห็นที่ 11 [อ้างอิง]
เงินเดือน สูงมาก


[ วันศุกร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2562 เวลา 16:15 น. ]
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 14 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:13 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์