ช็อก! น้องชายวัย 11 ปี พบพี่ชายกลายเป็นศพผูกคอตายคาห้องนอน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ช็อก! น้องชายวัย 11 ปี พบพี่ชายกลายเป็นศพผูกคอตายคาห้องนอน
14 กรกฎาคม 2562 ร.ต.ท.หญิง พิชญานิน ปลั่งกลาง ร้อยเวรฯ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้าน เลขที่ 130/2 ม.1 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และมูลนิธิกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านชั้นเดียวแบ่งออกเป็นห้อง ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณห้องด้านหลัง พบร่างนายประสิทธิ์ โยธิน หรือหนึ่ง อายุ 28 ปี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตัวเองกับขื่อห้องนอน ในสภาพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ จากนั้นจึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้บันไดปีนขึ้นไปแก้ผ้าขาวม้าที่ใช้ผูกคอกับขื่อ เพื่อนำร่างลงมาไว้บนที่นอนเพื่อแพทย์ชันสูตร ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลมีเพียงรอยช้ำบริเวณลำคอที่ใช้ผ้าม้าผูกคอตายเท่านั้น
จากการสอบถาม ด.ช.เฟิส (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี น้องชายผู้ตาย ซึ่งเป็นคนพบศพคนแรก เล่าว่า ตอนเช้ายังเห็นพี่ชายออกมาเข้าห้องน้ำปกติ แต่พอช่วงบ่ายไปเคาะประตูเรียกเพื่อจะเอาชุดนักเรียนมาซักเตรียมจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ แต่พี่ก็ไม่ยอมเปิดประตูและไม่มีเสียงตอบกลับ จึงได้เดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อไปส่องดูตรงรูหน้าต่างว่าทำไมพี่ชายถึงไม่ยอมเปิดประตู แต่ก็ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อส่องไปเห็นพี่ชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตายกับขื่อห้องนอนก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะตอนนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากป้า และญาติพี่น้องคนอื่นออกไปจัดโรงทานที่วัด จึงได้วิ่งไปบอกเพื่อนและบอกคนในหมู่บ้านให้มาดูพี่ชาย
ด้านนางเพ็ญศรี คิมรัมย์ อายุ 60 ปี ป้าของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายพึ่งกลับจากไปทำงานกรุงเทพฯ กับแม่ได้เพียง 3 วัน เพื่อจะกลับมาทำบุญที่บ้านในช่วงเข้าพรรษา ผู้ตายยังบอกกับตนเองว่าแม่จะเดินทางกลับมาตามหลัง ซึ่งตอนที่กลับมาอยู่บ้านก็ไม่เห็นหลานแสดงอาการผิดปกติอะไร และก็ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง แต่ปกติหลานก็เป็นคนชอบเก็บตัวและพูดน้อยอยู่แล้ว จึงไม่รู้สาเหตุว่าทำไมหลานจึงคิดสั้นผูกคอตาย ซึ่งวันเกิดเหตุก็ไม่มีใครอยู่บ้านเพราะออกไปวัดกันหมดมีเพียงผู้ตาย และน้องชายอยู่ที่บ้าน กระทั่งมีคนโทรไปบอกว่าหลานผูกคอตาย ต่างก็พากันตกใจและรีบกลับมาดู อย่างไรก็ตาม ญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และไม่ประสงค์จะนำศพไปตรวจพิสูจน์ เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น