ทนายลั่น จราจรอย่าแถ!ยันคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ใช่ศาล

จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางหลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Guy Thanapon ได้โพสต์คลิปวีดีโอเป็นภาพระหว่างการสนทนากับ ตำรวจจราจร สน.บางโพงพาง บริเวณหน้าปากซอยตลาดรุ่งเจริญ ถนนสาธุประดิษฐ์ ในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการขี่จักรยานยนต์ แล้วถูกตำรวจในคลิปเขียนใบสั่งข้อหา "ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ "ให้แก่เจ้าของคลิป สาเหตุมาจากเจ้าของนั่งคร่อม จยย.ที่จอดอยู่ริมถนนเพื่อคุยโทรศัพท์ ซึ่งเจ้าตัวแย้งว่า ยังไม่ได้ขี่หรือเคลื่อนตัวออกไปแต่อย่างใด แต่จอดคุยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทางศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. โพสต์เฟซบุ๊กยืนยัน มีความผิด แต่ทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซัดกลับว่า ตำรวจตีความกฎหมายไม่ถูกต้องอาจมีความผิดมาตรา157 ความคืบหน้า

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.นายเดชา กิตติวิทยานันท์  ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจ "ทนายคลายทุกข์" ได้ให้ความเห็นทางกฎหมายกับเดลินิวส์ออนไลน์ เพิ่มเติมว่า  เบื้องต้นได้พูดคุยกับชายหนุ่มผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ในคลิปแล้ว พร้อมแนะนำว่า เจ้าตัวต้องไปติดต่อเจ้าพนักงานจราจรคือร้อยเวรเพื่อให้เพิกถอนการออกใบสั่งและสู้คดี แล้วยังสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับ นายตำรวจผู้ที่ออกใบสั่ง ถือเป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายพึงกระทำได้ ถ้าเห็นว่าได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ก็ไปแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ทั้งนี้ ตนพร้อมจะเป็นทนายว่าความให้ทันทีหากต้องการ

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ส่วนที่ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. โพสต์เฟซบุ๊กยืนยัน ว่าผู้เสียหายมีความผิด โดยอ้าง เทียบเคียง บันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1181/2558 นั้น  ข้ออ้างของตำรวจไม่ได้มีกำหนดไว้ในกฎหมายจราจรเป็นการกล่าวอ้างขึ้นมาเองตามอำเภอใจจึงไม่สามารถอ้างได้ตามกฎหมาย กฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนว่าหมายถึงผู้ขับรถขับรถหมายถึงรถต้องแล่นอยู่ จอดรถกลับขับรถมีความหมายต่างกัน ข้ออ้างของ"ตำรวจและคณะกรรมการกฤษฎีกา"ฟังไม่ขึ้นและประชาชนไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ใช่ศาล