พ่อฐานะยากจนเข็นศพ ลูกชาย ป่วยตาย ขอวัดช่วยเผา ไม่มีเงินแม้แต่ตั้งสวด
(10 ก.ค.62) ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ 191 ของตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีคนจะนำศพไปเผาที่เมรุเผาศพภายในวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ เขตเทศบาลเมืองยโสธร โดยที่ไม่มีการแจ้งให้กับทางวัดทราบล่วงหน้าและไม่มีการทำพิธีสวดศพเหมือนกับศพทั่วๆไป ทางวัดจึงติดใจสาเหตุการตายและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการตายด้วย
ภายหลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ. ปณิธาน ยามานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร พร้อมด้วยร้อยเวรป้องกันปราบปรามและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงได้พบกับ นายสมพร มาลาศรี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 471/21 ถนนวิทยะธำรง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตายยืนอยู่บริเวณด้านหน้าเมรุเผาศพภายในวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ ใกล้กันพบรถเข็นจอดอยู่ ภายในรถเข็นมีศพของนายอมร มาลาศรี อายุ 22 ปี ลูกชายนายสมพรนอนอยู่ มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปิดทับศพเอาไว้เท่านั้น
นายสมพร เล่าว่า ลูกชายของตนมีโรคประจำตัวและมีอาการป่วยมานานแล้ว จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ11.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ลูกชายก็ได้เสียชีวิตลงที่บ้านพัก ตนไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะมีฐานะยากจนไม่มีเงินพอที่จะจัดงานศพให้กับลูกชาย ญาติพี่น้องก็ไม่มี ตนมีอาชีพหาของเก่าขายเพื่อประทังชีวิตไปวันๆเท่านั้นและไม่รู้จักขั้นตอนในการดำเนินการเกี่ยวกับมีคนตายในบ้าน
จึงตัดสินใจอุ้มศพของลูกชายใส่รถเข็นแล้วเข็นมาที่วัดทุ่งสว่างชัยภูมิ ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักเพื่อขอสถานที่ในการเผาศพลูกชาย แต่เมื่อมาถึงวัดทางเจ้าหน้าที่ประจำวัดตกใจเพราะตนไม่ได้แจ้งล่วงหน้า จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ เพื่อเข้าไปตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตดังกล่าวพร้อมกับได้แนะนำให้ตนไปแจ้งการตายที่เทศบาลเมืองยโสธรเพื่อขอใบมรณะบัตรตามขั้นตอน