สัตว์แพทย์ไทยสุดเจ๋ง! “ใช้โบท๊อกซ์รักษาช้าง” หวังห่างไกล “อาการขากรรไกรแข็ง”

อาคารคลีนิคสุขภาพช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทย์ศาสาตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน สัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สถาบันคชบาลแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ร่วมกันแถลงข่าว "พังรุ่งนภา" ช้างเชือกแรกของโลกที่ได้รับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาภาวะกล้ามเนื้อบริเวณขากกรรไกรแข็งเกร็งอ้าปากไม่ได้

พังรุ่งนภา อายุ 50 ปี ป่วยด้วยอาการแข็งเกร็งที่ปาก ทำให้มันอ้าปากเคี้ยวอาหารไม่ได้ เข้ามารักษาตั้งแต่ปี 2561

จากการตรวจพบฟันของมันไม่สบกัน เพราะกรามผิดปกติจึงรักษาโดยการฉีดยาปฏิชีวนะ ให้สารน้ำทางเส้นเลือดวันละไม่ต่ำกว่า 40-50 ลิตร ให้สารอาหารที่ปั่น เช่น กล้วย สับปะรด หญ้า เพื่อเสริมวิตามิน โดยสอดผ่านทางสายยางเข้าไปยังกระเพาะอาหาร ครั้งละ 30-40 กิโลกรัม วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งให้สารอาหารทางทวารหนัก เพื่อให้ร่างกายช้างได้รับสารอาหารที่เพียงพอ แต่ผ่านไปหลายเดือนอาการไม่ดีขึ้น ทีมสัตวแพทย์จึงลองรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์เข้ากล้ามเนื้อขากรรไกรเพื่อให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวถือเป็นช้างเชือกแรกที่ได้รับการรักษาเช่นนนี้

พญ.พรเอื้อ บุญยไพศาลเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง กล่าวว่า การใช้โบท็อกซ์ฉีดให้กับพังรุ่งนภาใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นมันก็กลับมาเคี้ยวอาหารและอ้าปากได้ปกติ 

ขณะที่ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจภูธรระแงะ เข้าตรวจสอบช้างป่าเพศผู้ อายุ 20 ปี หนัก 36 ตัน ถูกยิงล้มในสวนยางพารา พื้นที่บ้านลาม หมู่ 5 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จากการตรวจสอบพบแผลกระสุนที่หัวด้านซ้ายและขวา มีหัวกระสุนปืนไม่ทราบขนาดฝังอยู่ ส่วนงาทั้งสองข้างถูกตัดไป

หลังตรวจสอบและเก็บหลักฐานเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ฝังกลบในพื้นที่ ส่วนทางคดีจะได้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุต่อไป