จนท.อย่างเซ็งหัวขโมย! ตัดฟันวาฬหัวทุยทำของขลัง

กรณีชาวประมงพื้นบ้านเกาะลันตา จ.กระบี่ พบซาก "วาฬสเปิร์ม" หรือ "วาฬหัวทุย" ลอยตายอยู่ระหว่างเกาะลันตาและเกาะไหง ห่างชายฝั่งเกาะลันตาประมาณ 3 ไมล์ทะเล จึงลากเข้ามาไว้ที่ชายฝั่ง พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ประมง จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) ร่วมกับศูนย์วิจัยฯ อ่าวไทยตอนบน (ชุมพร) เข้ามาตรวจสอบ ช่วงคืนที่ผ่านมาตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายสมบูรณ์ เต็มชื่น นอภ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายศักดิ์ดา ทวีเมือง ประมง อ.เกาะลันตา พร้อม เจ้าหน้าท่ทหารเรือหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะลันตาน้อย ทีมสัตว์แพทย์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กว่า 20 คน เข้าตรวจสอบซากวาฬบริเวณชายหาดบ้านหัวแหลม หมู่ที่ 1 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่เพื่อหาสาเหตุการตาย

จากการตรวจสภาพภายนอก พบว่า วาฬตัวดังกล่าวเป็น วาฬเพศผู้ ความยาววัดได้ 12 เมตร น้ำหนักมากกว่า 12 ตัน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังพบว่า "ฟันล่าง" ของวาฬถูกลักลอบตัดออกไป ส่วนบริเวณโคนหาง มีร่องรอยบอบช้ำอย่างรุนแรง กลางลำตัวมีร่องรอยคล้ายถูกฉลามกัด ทั้งนี้มีชาวบ้านที่ลากซากวาฬเข้ามาบริเวณชายฝั่งยืนยันว่า ตอนลากเข้ามายังพบว่ามีฟันอยู่ครบสมบูรณ์ ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงให้การว่า พบเห็นชาย 3 คน เข้าไปใกล้ซากวาฬก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ลักลอบตัดเอาฟันออกไป

ด้าน นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความให้ติดตามหาตัวหัวขโมย ที่ลักตัดฟันวาฬแล้ว มาลงโทษตามกฎหมายแล้ว ขอเตือนประชาชนที่มีความเชื่อผิด ๆ ว่าซากวาฬจะช่วยคุ้มครองคุ้มภัยนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะนอกจากจะไม่ช่วยคุ้มภัยแล้ว ยังจะมีความผิดฐานครอบครองซากสัตว์คุ้มครองตามกฎหมายด้วย ส่วนประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นพบว่า ไม่ได้ถูกลักลอบล่าแต่อย่างใด ซึ่งวาฬตัวนี้อาจตายด้วยสาเหตุอื่น ทางแพทย์กำลังตัดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบแล้ว สำหรับ "วาฬหัวทุย" หรือ "วาฬสเปิร์ม" ในน่านน้ำไทยที่ผ่านมา มีการพบเพียง 3 จังหวัด คือ พังงา ภูเก็ต และ สตูล ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย สาเหตุการตายพบว่า มีปัจจัยจากการป่วยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ โดยตั้งแต่ปี 2534 พบว่ามีวาฬในเขตพื้นที่ฝั่งอันดามัน เกยตื้นหรือลอยตายในทะเลกว่า 21 ตัวแล้ว