เปิดโทษ ค้า-เสพ ยาเค ปรับหนัก ติดคุกยาว เผยเสพแล้วมึนงง ประสาทหลอน ใช้นานเป็นบ้าได้!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เปิดโทษ ค้า-เสพ ยาเค ปรับหนัก ติดคุกยาว เผยเสพแล้วมึนงง ประสาทหลอน ใช้นานเป็นบ้าได้!
หลังอดีตนักร้องชื่อดัง ปุ๊กกี้ ปริศนา โดนจับ พร้อมยาเค 52 กิโลกรัม และขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวอยู่นั้น
โดย ยาเค หรือ คีตามีน (Ketamine) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 ใช้เป็นยาสลบก่อนทำการผ่าตัด สามารถระงับปวด ช่วยขยายหลอดลม ต่อต้านอาการซึมเศร้าได้ ซึ่งจะออกฤทธิ์ประมาณ 5 - 10 นาที เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ยาเคจึงถูกนำมาใช้ในกรณีของการผ่าตัด ที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นยาที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในทางการแพทย์มาเป็นเวลานาน แต่ต่อมากลับถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดมากขึ้น โดยใช้ร่วมกับยาเสพติดร้ายแรงชนิดอื่น เช่น ยาอี และ โคเคน
ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้ผู้เสพจะรู้สึกมึนงง ความคิดสับสน ตาลาย หูแว่ว การรับรู้และการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไป หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง อาจเกิดอาการประสาทหลอน การเสพในระยะเวลานาน จะทำให้ผู้เสพประสบกับสภาวะโรคจิต และกลายเป็นคนวิกลจริตได้
โดยผู้ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาเสพ มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีครอบครอง ต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี - 5 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000 บาท - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี
สำหรับผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 บาท - 2,000,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2561 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้ายประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 108/2557 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
เห็นชอบให้เพิ่มวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 ได้แก่ คีตามีน เป็นยาเสพติดในบัญชีแนบท้ายประกาศ คสช. ดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องสงสัยว่ากระทําความผิดฐานเสพคีตามีน หรือเสพ และมีคีตามีนไว้ในครอบครอง ไม่เกิน 500 มิลลิกรัม สามารถนำมาตรการทางเลือกในการบำบัดฟื้นฟู มาใช้แทนการลงโทษหรือการถูกดำเนินคดีได้
ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือวันที่ 25 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น