ก็มาดิครับเข้าคุกแล้วครับ! หิ้วช่างกลสุดห้าวฝากขัง

จากกรณี วัยรุ่นช่างกล ก่อเหตุใช้ปืนวิ่งไล่ยิงชาวบ้านและใช้ปืนไล่ยิง วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ริมถนนย่านซอยลาซาล พื้นที่บางนา โดยภายหลังพบมีกล้องวงจรปิดจับภาพนาทีเหตุไล่ยิงกันเอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนและอาวุธมีด ซึ่งขี่จักรยานยนต์ซ้อนกันมา 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายจตุรงค์ เอี่ยมท้วม หรือแม็ก อายุ 30 ปี ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจอ้างสางแค้นแทนรุ่นน้องที่โดนไล่ทำร้ายมาก่อน ขณะที่โลกออนไลน์แชร์ภาพของ นายแม็ก ซึ่งมีลักษณะรูปร่างท้วมนั่งอยู่กับเพื่อนอีกรายที่มีรูปร่างผอมไว้ผมยาว โดยมีข้อความยั่วยุทำนองว่า อยากเจ้าหน้าที่ตำรวจกล้ามาจับกุมหน่อย พร้อมกับชูนิ้วกลางลักษณะท้ายทาย โดยเจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับกลุ่มนักเรียนช่างกลทั้งหมด ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพวุธ พนักงานสอบสวน สน.บางนา ควบคุมตัว นายจตุรงค์ เอี่ยมท้วม มาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 มิ.ย. เนื่องจากยังต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลาประมาณ 17.10 น. กลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นนักเรียนต่างสถาบันกัน จึงเกิดความไม่พอใจกัน

ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาได้ขี่จยย.ตามมาที่บริเวณหน้าตึกบี.เค.แมนชั่น ปากซอยลาซาล 21 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ โดยมี นายพีรพล พวงบุรี หรือ นนท์ นั่งซ้อนท้ายจยย. ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่กลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 6 นัด กระสุนปืนถูกนิ้วกลางข้างซ้ายของนักเรียนคู่อริได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปใน บี.เค.แมนชั่น ส่วนนายพีระพล ได้ซ้อนท้าย จยย. ย้อนกลับไปทางด้านปากซอยสุขุมวิท เพื่อไปหา นายประเสริฐศักดิ์ สิงห์โสภา หรือ บอย และนายจตุรงค์ เอี่ยมท้วม ซึ่งมีบ้านพักอยู่ในซอยดังกล่าว และแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกับนักเรียนคู่อริ

โดย นายจตุรงค์ ได้ขับขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง-ดำ ไม่ทราบทะเบียน มีนายประเสริฐศักดิ์ เป็นผู้ซ้อนท้าย มาที่ตึกบี.เค.แมนชั่น เมื่อเห็นกลุ่มผู้เสียหายออกมาจากตึกดังกล่าว นายประเสริฐศํกดิ์ ได้ลงจากรถ จยย. ก่อนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด วิ่งไล่ยิงใส่กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 3 นัด ที่วิ่งเข้าไปหลบในตึกดังกล่าว กระสุนปืนถูกกระจก ทำให้เศษกระจกกระเด็นไปถูกบริเวณใบหน้า นายชัยธัช ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายจตุรงค์ ได้ใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 1 ฟุต วิ่งไล่กลุ่มผู้เสียหายเช่นกัน หลังก่อเหตุ นายจตุรงค์และ นายประเสริฐศักดิ์ ได้ขับขี่ จยย.หลบหนีไป

จนกระทั่งวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 09.00 น. นายจตุรงค์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงาน สอบสวน สน.บางนา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่น,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุทำให้ได้รับ อันตรายแก่กายหรือจิตใจ, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธ ปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไมได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอัน สมควร อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80,83,288,371,376 และตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7,8,7227 ทวิ

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนข้อหาอื่นๆ ให้การปฏิเสธ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ขณะที่ญาติของนายจตุรงค์ อยู่ระหว่างหาหลักทรัพย์เพื่อจะยื่นประกันตัวต่อไป