4-6พ.ค.นี้เข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯรัชกาลที่10ได้ที่ไหนบ้าง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ 4-6พ.ค.นี้เข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯรัชกาลที่10ได้ที่ไหนบ้าง
เข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 ในวาระที่เป็นมิ่งมงคลของประเทศ รัฐบาลได้เชิญชวนประชาชนเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในห้วงเวลาสำคัญของพระราชพิธีที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 4 - 6 พฤษภาคมนี้ ชาวกรุงเทพฯและปวงชนชาวไทยจะมีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชกาลที 10 อย่างใกล้ชิดในวาระอันเป็นมงคลนี้โดยสามารถเฝ้าฯรอรับเสด็จฯในวันต่างๆ ดังนี้
โดยในวันที่ 4 พฤษภาคม พระราชพิธีบรมราชภิเษก จะเริ่มเวลา10.00 น. ในพิธีสรงพระมุรธาภิเษก ทรงรับน้ำอภิเษก เครื่องราชกกุธภัณฑ์และเสด็จออกมหาสมาคม โดยพระราชพิธีจะอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนสามารถเข้าเฝ้ารับเสด็จฯตั้งแต่ช่วงเช้าในการเสด็จฯพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถานลานพระราชวังดุสิตไปยังพระบรมมหาราชวังในเส้นทางตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิต ต่อเนื่องถนนราชดำเนินนอก ราชดำเนินกลาง ราชดำเนินในและถนนหน้าพระลาน โดยจะมีขบวนแถวของข้าราชการและเหล่าจิตอาสาเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯตลอดเส้นทางด้วย
โดยในวันที่ 4 พฤษภาคม พระราชพิธีบรมราชภิเษก จะเริ่มเวลา10.00 น. ในพิธีสรงพระมุรธาภิเษก ทรงรับน้ำอภิเษก เครื่องราชกกุธภัณฑ์และเสด็จออกมหาสมาคม โดยพระราชพิธีจะอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนสามารถเข้าเฝ้ารับเสด็จฯตั้งแต่ช่วงเช้าในการเสด็จฯพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถานลานพระราชวังดุสิตไปยังพระบรมมหาราชวังในเส้นทางตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิต ต่อเนื่องถนนราชดำเนินนอก ราชดำเนินกลาง ราชดำเนินในและถนนหน้าพระลาน โดยจะมีขบวนแถวของข้าราชการและเหล่าจิตอาสาเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯตลอดเส้นทางด้วย
สำหรับพระราชพิธีในวันที่ 5 พฤษภาคม ถือเป็นวันที่ประชาชนจะสามารถเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯได้ในเส้นทางต่างๆวงกว้างมากที่สุดเนื่องจากจะมีขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคจากพระบรมมหาราชวังไปยังวัดสำคัญ 3 แห่ง เส้นทางเสด็จฯกว่า 7 กิโลเมตร อีกทั้งเป็นถนนขนาดเล็กที่ประชาชนจะได้เฝ้าฯชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด โดยในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครถือเป็นริ้วขบวนพระเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ประกอบด้วยเครื่องสูงอันแสดงถึงแสนยานุภาพของพระมหากษัตริย์ตามโบราณราชประเพณี กำหนดเวลาเคลื่อนริ้วขบวนจะเริ่มตั้งแต่เวลา16.30น.ในเส้นทางจากพระบรมมหาราชวัง ประตูวิเศษไชยศรีขวาเข้าถนนหน้าพระลาน-แยกป้อมเผด็จดัสกร-เลี้ยวซ้ายถนนราชดำเนินใน-แยกผ่านพิภพลีลา-เลี้ยวขวาถนนราชดำเนินกลาง-แยกคอกวัวเลี้ยวซ้ายเข้าถนนตะนาว-วงเวียนสิบสามห้าง-ถนนสิสามห้าง เข้าวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
และเสด็จออกจากวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เลี้ยวขวาถนนพระสุเมรุ-ผ่านแยกวันชาติ-ตรงไปป้อมมหากาฬ-เลี้ยวขวาเข้าถนนราชดำเนินกลาง-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-แยกคอกวัว-แยกผ่านพิภพลีลา-เลี้ยวซ้ายถนนอัษฎางค์-แยกสะพานช้างโรงสี-เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบำรุงเมือง-แยกสี่กั๊กพระยาศรี-เลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนคร-ถนนราชบพิตร -เข้าสู่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
จากวัดราชบพิธสถิตมหาศรีมารามราชวรวิหาร-เลี้ยวขวาเข้าถนนราชบพิธ-เลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนคร-สี่กั๊กพระยาศรี-เลี้ยวเข้าถนนเจริญกรุง-ผ่านแยกสะพานมอญ-แยกวงเวียนรด.-ถนนท้ายวัง-เข้าสู่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จากนั้นเสด็จฯจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เลี้ยวซ้ายท้ายวัง-แยกท่าเตียน-เลี้ยวขวาถนนมหาราช-แยกท่าข้าง-เลี้ยวขวาถนนหน้าพระลานเลี้ยวขวาเข้าประตูวิเศษไชยศรี-เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
โดยริ้วขบวนจะใช้เวลาเคลื่อนไปยังจุดต่างๆทั้งหมดประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงหัวค่ำซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนรวมทั้งจุดบริการทางการแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขาเพื่อดูแลประชาชนที่จะเดินทางมาอย่างเต็มที่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจำเป็นจะต้องจัดระบบการจราจรโดยรอบเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางรอบพื้นที่จัดพระราชพิธีโดย จะปิดการจราจรในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นกลางต่อเนื่องจากเส้นทางเสด็จฯจำนวน 34 เส้นทางนอกจากนี้จะมีการขยายปิดการจราจรชั้นนอกเพื่อเติมกรณีประชาชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่จำนวนมากโดยพิจารณาปิดการจราจรรอบนอกถัดไป
และเสด็จออกจากวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เลี้ยวขวาถนนพระสุเมรุ-ผ่านแยกวันชาติ-ตรงไปป้อมมหากาฬ-เลี้ยวขวาเข้าถนนราชดำเนินกลาง-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-แยกคอกวัว-แยกผ่านพิภพลีลา-เลี้ยวซ้ายถนนอัษฎางค์-แยกสะพานช้างโรงสี-เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบำรุงเมือง-แยกสี่กั๊กพระยาศรี-เลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนคร-ถนนราชบพิตร -เข้าสู่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
จากวัดราชบพิธสถิตมหาศรีมารามราชวรวิหาร-เลี้ยวขวาเข้าถนนราชบพิธ-เลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนคร-สี่กั๊กพระยาศรี-เลี้ยวเข้าถนนเจริญกรุง-ผ่านแยกสะพานมอญ-แยกวงเวียนรด.-ถนนท้ายวัง-เข้าสู่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จากนั้นเสด็จฯจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เลี้ยวซ้ายท้ายวัง-แยกท่าเตียน-เลี้ยวขวาถนนมหาราช-แยกท่าข้าง-เลี้ยวขวาถนนหน้าพระลานเลี้ยวขวาเข้าประตูวิเศษไชยศรี-เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
โดยริ้วขบวนจะใช้เวลาเคลื่อนไปยังจุดต่างๆทั้งหมดประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงหัวค่ำซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนรวมทั้งจุดบริการทางการแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขาเพื่อดูแลประชาชนที่จะเดินทางมาอย่างเต็มที่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจำเป็นจะต้องจัดระบบการจราจรโดยรอบเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางรอบพื้นที่จัดพระราชพิธีโดย จะปิดการจราจรในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นกลางต่อเนื่องจากเส้นทางเสด็จฯจำนวน 34 เส้นทางนอกจากนี้จะมีการขยายปิดการจราจรชั้นนอกเพื่อเติมกรณีประชาชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่จำนวนมากโดยพิจารณาปิดการจราจรรอบนอกถัดไป
สำหรับพระราชพิธีในวันที่ 6พฤษภาคม ซึ่งจะมีพิธีสำคัญอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ประชาชนรอคอยคือในเวลา 16.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชรพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ให้ประชาชนเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคลโดยประชาชนสามารถเฝ้าฯรอชื่นชมพระบารมีได้ในพื้นที่ริมถนนสนามไชยตั้งแต่ศาลหลักเมืองหน้ากระทรวงกลาโหม สวนสราญรมย์วงเวียนรด.และในช่วงเย็นต่อเนื่องช่วงค่ำจะมีการแสดงบนท้องฟ้าให้ประชาชนได้ชมโดยใช้โดรนแปลอักษรเป็นรูปต่างๆด้วย
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอันเป็นพระราชพิธีสำคัญและแสดงให้เห็นถึงพระราชประเพณีที่งดงามของชาติไทย ความเคารพศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกหมู่เหล่ามาทุกยุคสมัย เป็นดังหลักชัยของแผ่นดิน จึงนับเป็นห้วงเวลาที่จะได้จารึกไว้ในชั่วชีวิตหนึ่งของเรา ที่อาจจะได้เห็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้เพียงครั้งเดียว....
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอันเป็นพระราชพิธีสำคัญและแสดงให้เห็นถึงพระราชประเพณีที่งดงามของชาติไทย ความเคารพศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกหมู่เหล่ามาทุกยุคสมัย เป็นดังหลักชัยของแผ่นดิน จึงนับเป็นห้วงเวลาที่จะได้จารึกไว้ในชั่วชีวิตหนึ่งของเรา ที่อาจจะได้เห็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้เพียงครั้งเดียว....