รถเมล์ขึ้นค่าโดยสารวันแรก ประชาชนอยากได้บริการดีขึ้น
วันนี้ 22 เม.ย. 2562 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถือเป็นศูนย์กลางการสัญจรของประชาชนที่ต้องการเดินทางขึ้นรถเมล์ไปสถานที่ต่างๆ จากการตรวจสอบ พบว่า แม้จะมีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถเมล์วันนี้เป็นวันแรก แต่ยังมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการตามปกติ ซึ่งระหว่างที่ผู้โดยสารรอที่จะขึ้นรถจะมีเสียงตามสายประชาสัมพันธ์ตลอดว่าวันนี้มีการปรับขึ้นโดยสารแล้ว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.บุญเรือน ดุลเพชร ผู้ใช้บริการรถเมล์ เล่าว่า ตนเองใช้บริการรถเมล์มากว่า 20 ปีแล้ว ได้ทราบข่าวการขึ้นราคารถเมล์ จากป้ายและเสียงประชาสัมพันธ์ล่วงหน้ามาราวหนึ่งสัปดาห์แล้ว โดยส่วนตัวค่อนข้างรับได้กับราคาเพราะมองว่าไม่ได้มีการปรับขึ้นมานานแล้ว ซึ่งไม่ได้ปรับสูงขึ้นมากนัก ขอเพียงขึ้นค่าโดยสารแล้วเอาไปพัฒนารถให้ดีขึ้นด้วย
ซึ่งก็มีอีกส่วนหนึ่งอย่างนายดนุพงศ์ บุตรทองคำ ประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ในการเดินทางไปทำงาน มองว่าการขึ้นค่ารถเมล์ไม่เหมาะสมต่อคุณภาพที่เป็นอยู่ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการปรับคุณภาพให้ดีขึ้น อาจทำให้คนใช้บริการรถสาธารณะน้อยลง
ด้าน นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ยอมรับว่าประชาชนอาจมีคำถามเรื่องคุณภาพกับการปรับค่าโดยสารแต่ ขสมก. ยืนยันว่า การปรับค่าโดยสารมีข้อดี เพราะคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ปรับอัตราค่าโดยสารรถเก่าและรถใหม่ต่างกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจสำหรับรถร่วม ขสมก. ที่ต้องการปรับขึ้นราคา ต้องจัดหารถที่มีคุณภาพมาให้บริการประชาชน โดยทาง ขสมก.เองพร้อมที่จะรับคำติชมและคำแนะนำจากประชาชน ส่วนกรณีฟ้องที่ไปร้องศาลปกครองนั้นหากมีคำสั่งใหม่ก็พร้อมที่จะปฎิบัติตาม
ทั้งนี้ ขสมก. ได้ทำการเตรียมพร้อม ทำความเข้าใจให้พนักงานแล้ว เพื่อที่จะสื่อสารบอกกับประชาชนรวมถึงปิดประกาศแจ้งราคาที่ปรับขึ้นแล้วอยู่บนรถเมล์ ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวได้ รับผลกระทบน้อยที่สุด ขณะที่ประชาชนบางคน มีการปรับตัวด้วยการซื้อบัตรโดยสาร ของ ขสมก.แบบรายสัปดาห์ หรือรายเดือน ซึ่งอาจจะมองว่าคุ้มค่ากว่าการจ่ายรายวัน
สำหรับอัตราค่าโดยสารที่ปรับขึ้น ในส่วนรถโดยสาร บขส. และรถร่วม บขส. จะปรับขึ้นไม่เกิน 10 %โดยแบ่งระยะทางเป็น 4 ช่วง เช่น ระยะทางไม่เกิน 40 กิโลเมตรแรก เดิม 0.49 บาทต่อกิโลเมตร ปรับเป็น 0.53 บาทต่อกิโลเมตร ,ระยะทาง 40-100 กิโลเมตร เดิม 0.44 บาทต่อกิโลเมตร ปรับเป็น 0.48 บาท ต่อกิโลเมตร, ระยะทาง 100-200 กิโลเมตร เดิม 0.40 บาท ต่อกิโลเมตร ปรับเป็น 0.44 บาท ต่อกิโลเมตร และระยะทางเกิน 200 กิโลเมตร เดิม 0.36 บาทต่อกิโลเมตร ปรับเป็น 0.39 บาทต่อกิโลเมตร
อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต รถวีไอพี เดิมค่าโดยสาร 913 บาท ปรับขึ้นเป็น 991 บาท, เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เดิมค่าโดยสาร 191 บาท ปรับขึ้นเป็น 209 บาท เส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น เดิม 313 บาท ปรับขึ้นเป็น 340 บาท เป็นต้น