คลัง ทุ่มงบ 1.5 หมื่นล้านบาทกระตุ้นเที่ยวเมืองรอง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลังออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ 3 มาตรการ ดังนี้ มาตรการที่ 1 เป็นการแจกเงินให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท นำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีเพย์เมนท์ ในเมืองรอง 55 จังหวัด ใช้งบประมาณกลางจำนวน 1.5 หมื่น ล้านบาท
โดยผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันและขอใช้ระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้คลังโอนเงินให้ 1,500 บาทเข้าระบบดังกล่าว คาดว่าจะมีคนเข้าโครงการ 10 ล้านคน ซึ่งจะเริ่มมาตรการในเดือน พ.ค.นี้
มาตรการที่ 2 เป็นการขยายมาตรการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยว นำมาหักเป็นรายจ่ายได้ไม่เกิน 15,000 บาท จากที่มาตรการนี้สิ้นสุดเมื่อเดือน ธ.ค.2561
ทั้งนี้ คลังจะเสนอมาตรการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้มีผลทันที หลังจากเศรษฐกิจไตรมาส 1-2 มีสัญญาณชะลอตัวจากเศรษฐกิจโลกผันผวนและปัญหาการเมืองภายในประเทศ กระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของรัฐและเอกชนได้ทยอยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 จากเดิมที่ขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4 เป็นขยายตัวได้ต่ำกว่าร้อยละ 4 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากทั้งนอกและในประเทศมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
สำหรับความเห็นของภาคเอกชน นายเจริญ วังอนานนท์ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2 และ 3 ว่า เป็นการออกมาตรการที่เหมาะสมกับเวลา เพราะช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยว เนื่องจากเริ่มเปิดเทอมและเข้าสู่หน้าฝน การที่มีมาตการกระตุ้นออกมาจะช่วยทำให้คนที่ลังเลท่องเที่ยวตัดสินใจเร็วขึ้น แต่ในเรื่องภาษีไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้สิทธิมาตรการ ซึ่งมีบางกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในฐานภาษี แต่คิดว่ามาตรการที่ออกมาจะส่งผลดี
ขณะที่นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ได้เสนอรัฐบาลต่อมาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือฟรี VOA ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ออกไปถึงวันที่ 31 ต.ค.2562 เพื่อช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในช่วงโลว์ซีซั่นนี้