เปิดประวัติ! อาถรรพ์พื้นดินห้างดัง “เซ็นทรัลเวิลด์” สรุปคือ “อุบัติเหตุ” หรือ “คำสาปแช่ง” ?
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เปิดประวัติ! อาถรรพ์พื้นดินห้างดัง “เซ็นทรัลเวิลด์” สรุปคือ “อุบัติเหตุ” หรือ “คำสาปแช่ง” ?
เซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางแยกราชประสงค์ ทำเลทองของนักธุรกิจ และสถานที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ อันเป็นแหล่งยอดนิยมของนักท่องเที่ยว หากแต่ใครเลยจะทราบว่าในอดีตที่ดินแห่งนี้เคยมีประวัติพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่มาหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่เคยประสบปัญหาขาดทุนมาก่อนที่จะส่งช่วงต่อให้ตระกูลจิราธิวัฒน์ จนกลายมาเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงที่เกิดเหตุจลาจลทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2553 เซ็นทรัลเวิลด์ก็ได้เคยถูกเผาทำลาย จนต้องมีการปรับปรุงใหม่อีกครั้ง
ต่อเนื่องมาในคืนวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 กับเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำเนิน อันเป็นบริเวณใกล้เคียงกับที่ดินดังกล่าว จนกระแสเรื่องราว อาถรรพ์วังเพ็ชรบูรณ์ ได้ถูกหยิบยกมาพูดถึงอีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 เวลา 12.00 น.ได้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นอีกที่ห้างเซนทรัลเวิลด์ โดยที่เพจ FM91 Trafficpro ได้มีการแชร์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า.. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุพระราม 199 มีกลุ่มควันเกิดขึ้นภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน จนท.เริ่มอพยพคนออกจากร้านที่มีกลุ่มควันที่ชั้น 6 กันคนจากด้านนอกแล้ว หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป..
วันนี้เลยอยากจะขอพาย้อนกลับไปดูประวัติและอาถรรพ์ของที่ดินผืนนี้กัน
เซ็นทรัลเวิลด์นั้น เดิมทีคือ วังเพ็ชรบูรณ์ ที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสองค์ที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงประทับอยู่กับ ม.จ.หญิงบุญจิราธร พระชายา และเมื่อทั้งสองสิ้นพระชนม์ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา ก็เป็นผู้ครอบครองต่อ
สำหรับอาถรรพ์ของที่ดินผืนนี้นั้น นายไพศาล พืชมงคล ทนายความนักโหราศาสตร์ เล่าถึงเรื่องนี้ผ่าน ทวิตเตอร์ @paisalvision ว่า ที่ดินของเซ็นทรัลเวิลด์ มีการสาปแช่งจากเจ้าของเก่า คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ที่ทรงไม่อยากให้ผู้ที่ได้ครอบครองที่ดินผืนนี้ เป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่ลูกหลาน จึงทำการสาปแช่งเอาไว้ว่า หากผู้ที่ครอบครองมิใช่ลูกหลานก็ให้ฉิบหาย แต่หากไปสร้างศาลเจ้าพ่อเสือในที่ดินแปลงหนึ่งที่รังสิตก็จะยกเว้นไม่ต้องคำสาป
อีกทั้งอาจารย์วิศิษฏ์ เตชะเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยชื่อดังของไทย ก็มีการกล่าวถึงที่ดินที่แยกราชประสงค์ ที่ถูกเรียกขานว่า สี่แยกมหาเทพ เอาไว้ว่า ที่ตรงนั้นเคยเป็นทางแยกซึ่งส่วนใหญ่จะมีวิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่เยอะ เมื่อก่อนโรงแรมเอราวัณก็ประสบปัญหามาก แต่หลังจากมีพระผู้ใหญ่ที่เป็นพราหมณ์แนะนำให้ตั้งศาลพระพรหม ทุกอย่างก็ค่อย ๆ ดีขึ้น โรงพยาบาลตำรวจก็ต้องมีการตั้งพระนารายณ์เพื่อคุ้มครอง ห้างไทยไดมารู ในสมัยก่อนก็ต้องเจ๊งเพราะไปสร้างทับที่ดินของเจ้าในรัชกาลที่ 4 และสุดท้ายวังเพ็ชรบูรณ์ก็มีการสาปแช่งเอาไว้อีกมาก
ในปี พ.ศ. 2525 กลุ่มบริษัท วังเพ็ชรบูรณ์ ของนายอุเทน เตชะไพบูลย์ เข้ามาประมูลที่ดินบริเวณนั้น จำนวน 75 ไร่ และก่อตั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ขึ้นในปี พ.ศ. 2532 แต่ภายหลังกิจการ ธนาคารศรีนคร ของตระกูลเตชะไพบูลย์ เกิดผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจทำให้ประสบปัญหาขาดทุน และโดนยึดทรัพย์ไปราว 9,000 ล้านบาท และทำให้เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์หยุดชะงัก
สำหรับเรื่องนี้นายไพศาล ก็กล่าวถึงอีกเช่นกันว่า ตนเองมีส่วนร่วมในการเป็นพยานวันเปิดพินัยกรรมของทายาทเจ้าของที่ดิน เพราะตนเองมีวันเกิดตรงกับวันที่กำหนดเอาไว้และมีวิชาทางโหราศาสตร์พอสมควร เมื่อทำการเปิดพินัยกรรม ทายาทก็นำที่ดินออกประมูล และเมื่อนายอุเทน เตชะไพบูลย์ ประมูลได้ ตนเองก็เตือนไปว่าให้แก้คำสาป แต่ครอบครัวนี้กลับคิดว่ามีซินแสดี และใช้วิธีแก้ฮวงจุ้ย แต่สุดท้ายก็เป็นดังที่เห็น
ในเวลาต่อมา บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จึงได้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการต่อ และบูรณะซ่อมแซม จนเกิดเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 และมีการนำพราหมณ์มาทำพิธีต่าง ๆ มากมายเพื่อแก้เคล็ด โดยมีการสร้างพระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเนศ ขึ้น เพื่อหวังดูดซับพลังที่มาจากฝั่งท้าวมหาพรหมด้วย แต่ทุกวันนี้ก็คงเห็นกันแล้วว่าแก้คำสาปได้หรือไม่
ปัจจุบันที่ดินผืนนี้เป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งตรงกับที่นายไพศาลเล่าเอาไว้ว่า เจ้านายบางท่านไม่ต้องการให้ที่ดินของตนตกเป็นของคนอื่น จึงทำเป็นพินัยกรรมและทูลเกล้าถวาย สุดท้ายที่ดินผืนนี้จึงตกเป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่อาถรรพ์ของคำสาป ก็ดูเหมือนว่าจะยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น