บังคับนกเหล็กให้ปลอดภัย ต้องใส่ใจในทุกสถานการณ์

ระยะนี้ฟ้าฝนไม่ค่อยเต็มใจในการเดินทางสักเท่าไร ขนาดการเดินทางที่ได้รับการกล่าวขานว่าปลอดภัยที่สุดอย่างเครื่องบินยังต้องเผชิญกับปัญหา !!

       
ประเทศไทยช่วงนี้อยู่ในเขตอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนและชื้นจากมหาสมุทรอินเดีย พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนองขึ้นเป็นระลอก ๆ ส่งผลให้การเดินทางมักเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าสภาวการณ์ในช่วงอื่น ๆ ไม่เว้นแม้แต่การเดินทางทางอากาศ...

พลอากาศตรีวราวุธ คันธา ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์การบิน กรมแพทย์ทหารอากาศ กล่าวถึงการบินให้ฟังว่า


นักบินทุกคนจะได้รับความรู้ ทางด้านการบินทั้งโครงสร้างอากาศยาน เครื่องยนต์อากาศยาน เครื่องวัดประกอบการบิน อากาศพลศาสตร์ กฎการบิน อุตุนิยมวิทยา สรีรวิทยาการบิน การใช้วิทยุและโสตทัศนสัญญาณ รวมทั้งการฝึกจากเครื่องวัดประกอบการบิน (Flight Instruments) เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ก่อนจะจบเป็นนักบินประจำกอง
      
“สภาพอากาศที่ดี ท้องฟ้าเปิดสามารถมองเห็นขอบฟ้าชัดเจน ลมนิ่งหรือถ้ามีการพัดไม่แรงมากนัก ไม่มีเมฆฝน เป็นสภาพอากาศในอุดมคติของนักบินทุกนาย อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา นิยมฝึกบินกันที่เนวาดา เพราะเป็น ทะเลทรายมีไอน้ำน้อย ไม่ค่อยมีพายุ สามารถมองเห็นได้ไกล การฝึกบินจะเป็น ไปได้ด้วยดี ในบ้านเราที่ติดทะเล อย่าง ภาคใต้ สภาพอากาศเมื่อมีไอน้ำมาก เมฆ ก็จะมากตาม ลมจะพัดแปรปรวน ทำให้นักบินจะต้องเรียนรู้ว่า เมื่อเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในแต่ละรูปแบบจะต้องทำอย่างไรบ้าง ในการบินทุกเที่ยวจะเจอกับสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละภาคแต่ละฤดูกาล ซึ่งนักบินทุกคนจะต้องมีแผนการบิน”
       
เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย การแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้น คือ

นักบินจะประเมินสภาพอากาศ อะไรที่ค่อนข้างจะมั่นคง แน่นอน นักบินจะรู้ และปฏิบัติ เช่น ลมพัดขวางสนามด้วยความเร็วเท่านี้จะต้องหันให้หัวเครื่องบิน ไปอยู่ที่องศาเท่าไร ต้องสู้ลมเท่าไรเพื่อให้ล้อไปถึงพื้นให้ได้

สภาพอากาศที่มีเมฆฝนเป็นสภาพที่นักบินจะเจอบ่อย


เพราะบางครั้งมองเห็นก้อนเมฆหมอกอยู่ แต่จริง ๆ แล้วก้อนเมฆหมอกนั้นไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ ภายในก้อนเมฆจะมีไฟฟ้าสถิต มีลูกเห็บอยู่ ซึ่งถ้านักบินเห็นแล้วจะไม่บินเข้าไปจะเลี่ยงเส้นทางออกมา ถ้าเป็นเครื่องบินแบบใหม่ จะมีเรดาร์มองตัดเข้าไปในเมฆ ทำให้นักบินรู้ว่า ก้อนเมฆนั้นเป็นก้อนเมฆ หนาหรือบาง ถ้าเป็นก้อนเมฆบางนักบินอาจบินเฉียดได้ แต่ถ้าเป็นเมฆหนามักจะหลบเลี่ยงออกนอกเส้นทางก่อนเมื่อพ้นแล้วจึงเข้ากลับเข้ามาสู่เส้นทางเดิม
      
สภาพอากาศที่ถือว่าเลวร้ายที่สุด จะเป็นสภาพอากาศที่แปรปรวนกะทันหัน

มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว บางครั้ง มองไม่เห็นหรือเห็นแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ทัน สิ่งที่ต้องดูอันดับแรก คือ ความเร็วลม ตรงนี้นักบินต้องแก้ไขอย่างฉุกเฉิน เป็นสภาพอากาศที่นักบินทุกคนไม่ ปรารถนาที่จะพบเจอ
       
“การบินถือเป็นการเดินทางรูปแบบหนึ่งที่รวดเร็วและปลอดภัย ทุกฝ่ายขององค์กรในประเทศพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยในการบิน ทั้งกรมขนส่งทางอากาศ วิทยุการบิน บริษัทการบินทุก แห่ง พยายามร่วมมือกัน แต่บางครั้งด้วย สภาพอากาศที่เหนือการควบคุมก็ทำให้ เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ จึงมีการกำหนดมาตร การเพิ่มเติมขึ้น ในส่วนของทั้งบริษัท ในทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการบินให้เกิดขึ้นมากที่สุด”
       
การบินที่มักจะนำพาให้อากาศ ยานเกิดอุบัติเหตุขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจาก “การหลงสภาพการบิน”

ร.อ.พยงค์ รัตน สุข นายทหารสรีรวิทยาการบิน กองนิรภัยเวชกรรมการบิน สถาบันเวชศาสตร์ การบิน อธิบายถึงการหลงสภาพการบินให้ฟังว่า เป็นอาการที่บุคคลนั้นรับรู้ถึง ตำแหน่งที่อยู่ ท่าทางการทรงตัวในการบิน และการเคลื่อนที่ของอากาศยานที่ตนบังคับอยู่ในลักษณะที่สัมพันธ์กับแนวขอบฟ้า (Horizontal Line) ผิดพลาดไปจากที่เป็นอยู่จริง
      

นักบินทหารอากาศทุกนายจะได้ รับการฝึกการหลงสภาพการบินด้วย


เครื่องที่เรียกว่า “เครื่องฝึกการแก้ไขการ หลงสภาพการบิน” (GYRO LAB) โดยใช้บทเรียนที่ว่า มนุษย์มีอวัยวะที่ใช้สำหรับรับรู้การทรงตัว คือ ตา ใช้หลักการ มองเห็นภาพแล้วนำไปเปรียบเทียบอ้างอิงกับสิ่งแวดล้อม เช่น พื้นดิน พื้นน้ำ ภูเขา ต้นไม้แล้วนำมากำหนดรับรู้สภาพของการทรงตัวหรือการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตามความเคยชินหรือการเรียนรู้ ซึ่งเป็นอวัยวะในการกำหนดรับรู้การทรงตัวมากที่สุด  รองลงมาเป็น อวัยวะรับรู้การทรงตัวในหูชั้นใน สุดท้าย คือ กล้ามเนื้อและเอ็น อาทิ ผิวหนัง ข้อต่อต่าง ๆ ให้ รู้ว่าตอนนี้เรากำลัง นั่ง ยืน นอน รู้ท่าทางของตนเอง
 
“สายตาที่ว่าแม่นยำที่สุดบางครั้งก็ถูกจำกัด เช่น บินเข้าไปในเมฆมองไม่เห็นอะไร บินในเวลากลางคืน ฉะนั้น การให้นักบินมาฝึกกับเครื่องนี้ เพื่อให้นักบินรู้และยอมรับข้อจำกัดบางอย่างซึ่งเป็นปกติทั่วไปว่า อวัยวะทั้ง  3 ที่ว่านั้นบางครั้งอาจจะทำงานได้ไม่ดีในช่วงสภาพหนึ่งที่ถูกจำกัด นอกจากสายตาแล้ว ที่เชื่อถือได้ คือ การใช้เครื่องวัดประกอบการบิน คือ ถ้ามองไม่เห็นด้วยสายตาก็ต้องใช้เครื่องวัดช่วย แม้ในการบินปกติก็ต้องมีการใช้สายตาและเครื่องวัดประกอบกัน และต้องตรวจ สอบ (CROSS CHECK) บ่อย ๆ
 
เครื่องฝึกการแก้ไขการหลงสภาพการบินนี้ไม่เหมือนวัคซีน คือ ได้รู้จักการหลงสภาพการบินจากเครื่อง ฝึกนี้แล้ว เวลาไปขับเครื่องบินจริง ก็มีโอกาสหลงเหมือนเดิม เครื่องฝึกนี้ ไม่ได้ฝึกให้ทนต่อการหลงสภาพการบินแต่เป็นเครื่องที่ฝึกให้รู้จักว่าการหลงสภาพ การบินเกิดขึ้นได้จริง จากปัจจัยทางด้าน  กายภาพคือสภาพอากาศ รวมทั้งปัจจัยด้านร่างกายและจิตใจของนักบิน การป้องกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น และเมื่อเกิดสภาวะการหลงสภาพการบินจะได้ไม่ตกใจ และรู้ว่าต้องกลับมาใช้อุปกรณ์เครื่องวัดประกอบการบิน แทนความรู้สึก”
       
การหลงสภาพการบิน มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน

คือ ไม่รู้ว่าตนเองหลง เครื่องบินอาจจะอยู่ในสภาพที่เอียง มีการเลี้ยวเกิดขึ้น แต่นักบินยังคิดว่าเครื่องบินบินตรงอยู่ แบบนี้จะอันตรายที่สุด (THE KILLER) แบบที่ 2 คือ เกิดตนเองรับรู้ และทำการแก้ไขได้ เป็นสิ่งหนึ่ง ที่จะบอกวัตถุประสงค์ของอุปกรณ์และการเรียนเรื่องนี้ เพื่อเปลี่ยนจากแบบที่ 1 มาเป็นแบบที่ 2 ให้ได้ แบบสุดท้าย คือ มีข้อจำกัด บางครั้งรุนแรง เกิดแล้วตนเองรู้ แต่โอกาส แก้ไขมีอยู่บ้างแต่น้อยมาก อาจด้วยสาเหตุ มาจากการสูญเสียการทรงตัวหรือการควบคุมกล้ามเนื้อของตนเอง ถ้าเป็นเครื่องบินรบ สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้ หรือบางตำราของต่างประเทศให้จับ คันบังคับเบา ๆ 
      
“การตกหลุมอากาศที่มองไม่เห็น ในบางครั้งนักบินมองเห็นสภาพอากาศดีทุกอย่าง แต่บินเข้าไปแล้ว แรงยกของอากาศไม่มี เครื่องบินก็ตกลงมาในระดับหนึ่ง เป็นเรื่องความต่างของไอน้ำกับอุณหภูมิ ทำให้แรงยกของเครื่องบินไม่มี ของภายในเครื่องรวมทั้งคนจะลอยขึ้น เมื่อเครื่องบินหยุดในระดับหนึ่งทุกสิ่งรวมทั้งคนก็จะตกลงกระแทกกับพื้นทำให้เกิดการบาดเจ็บได้”
 
การบินในแต่ละครั้งจะต้องทำงานประสานกันทั้งหอบังคับการบิน บริษัท วิทยุการบิน

ส่วนเรื่องการตัดสินใจ ทั้งแผนการบิน ความปลอดภัยในการบิน ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักบิน ความรู้ คือ นักบินต้องรู้ว่าตนเองขับเครื่องบินอะไรอยู่ สมรรถนะของเครื่องรุ่นนั้นเป็นอย่างไร รวมทั้งรู้เรื่องสภาพอากาศ การดู คาดการณ์ และประสบ การณ์ในเรื่องของการแก้ไขปัญหา ทั้งจาก การศึกษาและการฝึกจริง
       
“ทุกที่ที่เป็นการเดินทาง ไม่ว่าจะ เป็นทางใดก็ตาม เรื่องของความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด จริง ๆ แล้วมีความเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ทั้งทางด้านเจ้าของบริษัท ในเรื่องของการบำรุงรักษา บุคลากร และการปลูกฝังจิตสำนึกในแง่ของความปลอดภัยให้กับทุกคน ผู้โดยสารเองก็ต้องปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยของสายการบินหรือการเดินทางในรูปแบบอื่น ๆ ที่มีกฎระเบียบไว้ ต้องให้ความร่วมมือในการปฏิบัติ ส่วนในเรื่องของเหตุสุดวิสัย ลมฟ้าอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ต้องยอมรับ ตรงนี้ต้องย้อนกลับไปที่นักบิน ในส่วนของประสบการณ์และการตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ป้องกันดีกว่าแก้ไข” ร.อ.พยงค์ กล่าวด้วยความเป็นห่วง
 

เพราะทุกชีวิต  มีคุณค่า...คงไม่มีใครอยากเผชิญกับความสูญเสีย...

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์