ทูลกระหม่อมฯ ไม่โกรธถูกว่า พร้อมปรับปรุง ไม่โมโห เดี๋ยวแก่เร็ว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ทูลกระหม่อมฯ ไม่โกรธถูกว่า พร้อมปรับปรุง ไม่โมโห เดี๋ยวแก่เร็ว
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทานสัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยว่า เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม จำนวนมาก ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ข้าพเจ้าเคยเดินทางไปหลายแห่งยังรู้สึกประหลาดใจ ยังมีสถานที่แปลกๆ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน โดยแต่ละแห่งล้วนมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง นับเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของ แต่ละชุมชน ในฐานะที่ชาวชุมชนเป็นเจ้าบ้าน สำคัญมากที่ต้องมีความภูมิใจในอัตลักษณ์ของตนเอง เพราะเรามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี ฉะนั้นเราต้องชูอัตลักษณ์ในความแตกต่างนั้น
หากจะใช้คำว่า "มองข้ามเมืองรอง" คงไม่ถูกต้องนัก เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยบางคนอาจจะไม่ทราบข้อมูล บางแห่งยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ "เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา" สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูฝน ฤดูหนาว หรือฤดูร้อน บางครั้งข้าพเจ้าไปจังหวัดนี้ ยังไม่รู้ว่ามีสถานที่หรือของดีอะไร ต้องถามไถ่กัน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะสิ่งดีๆ อาจอยู่แค่ปลายจมูก
จากการทรงงานผ่านโครงการทูบีนัมเบอร์วัน มีโอกาสเสด็จยังจังหวัดต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ หากพระกรณียกิจแล้วเสร็จและทรงพอมีเวลาว่าง พระองค์จะทรงโปรดเยี่ยมชมสถานที่ใกล้เคียงพื้นที่ทรงงาน เช่น พญาศรีสัตนาคราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดนครพนม ส่วนจังหวัดมุกดาหารมีพญานาคขนาดใหญ่คอยปกป้องพระพุทธรูปองค์สีขาว ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ซึ่งทั้งสองแห่งล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
"และจากการไปเยือนที่ต่างๆ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็ก ๆ และผู้ปกครองมาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ นอกจากยาเสพติดยังมีปัญหาปากท้อง ข้าพเจ้าอยากเข้าไปช่วยเหลือแก้ไข แต่น่าเสียดายที่ข้าพเจ้าไม่สามารถ แก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ หากไปเที่ยวเมืองไหนก็พยายามถ่ายรูปสวยๆ มาลงในอินสตราแกรมส่วนตัว พร้อมกับหาวิธีเขียนที่อ่านสนุก เพราะถ้าเขียนเชิงวิชาการเกินไปจะน่าเบื่อ
พาลให้คนไม่อยากเที่ยว ซึ่งการโปรโมตทางสื่อโซเชียลนับว่าได้ผลดี"
สื่อโซเชียลหลักที่ทรงใช้คือ อินสตาแกรม เพราะรวดเร็วเข้าถึงได้ทุกที่ทุกแห่งและได้ผลดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีโอกาสได้โต้ตอบกัน
"ทุกคนสามารถคุยกับข้าพเจ้าได้ ถ้ามีเวลาก็จะพยายามตอบ คนมาแสดงความคิดเห็นหลายคนก็ให้กำลังใจมาก ซึ่งเรารู้สึกขอบใจและซาบซึ้งใจที่พวกเรามาให้กำลังใจ ทำให้สามารถที่จะกำลังใจทำงานดีๆ ต่อไป แต่บางครั้งสื่อออนไลน์ก็มีข้อเสียที่ต้องระมัดระวังในการใช้ เช่น บางคนใช้โต้เถียงกัน ด่าทอใส่กัน สำหรับข้าพเจ้าไม่โกรธ เพราะมองว่าคนด่าทำให้เราหันมามองตัวเอง ได้ปรับปรุงตัวเองไม่ต้องชมตลอดเวลา เมื่อก่อนเคยเปิดเฟซบุ๊กมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ก็มันดี แต่ตอนหลังๆ ก็เยอะไปก็เลยปิดเป็นส่วนตัว สำหรับบางคอมเม้นต์ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็ไม่แคร์ ปีนี้พระท่านสอนบอกว่าไม่ให้ข้าพเจ้าโกรธ หรือโมโหใคร ตามสุภาษิตที่ว่า "โกรธคือโง่โมโหคือบ้า" ดังนั้น ปีนี้จะไม่โมโหใครเลย เพราะถ้าโกรธและโมโหก็จะทำให้เราแก่เร็วและจะเป็นสาเหตุโรคอัลไซเมอร์ได้"