เผยภาพอัศจรรย์ เปลวเพลิงลุกโชติช่วงเหนือเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เผยภาพอัศจรรย์ เปลวเพลิงลุกโชติช่วงเหนือเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก
เมื่อเวลา 22.15น. วันที่ 29 มกราคม ที่ฌาปนสถานชั่วคราวนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก พุทธมณฑลอีสาน วัดหนองแวงพระอารามหลวง จ.ขอนแก่นในพิธีพระราชทานเพลิงจริงสรีรสังขาร พระครูใหญ่พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
โดยเมื่อถึงฤกษ์พิธีพระราชทานเพลิงตามกำหนดพระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 วัดไตรมิตรวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานจุดเตาสรีรสังขารภายในตัวนกหัสดีลิงค์ ผู้
สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ไฟกำลังลุกโชนด้วยความรุนแรง ทำให้มีไอความร้อนจากเปลวเพลิงกระจายในวงรัศมีไม่ต่ำกว่า 10 เมตร จากตัวเมรุลอยมาถึงจุดที่ตั้งไว้สำหรับรองรับแขกและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) ได้นำหุ่นยนต์ฉีดพ่นน้ำแรงดันสูงมาประจำไว้รอบบริเวณจำนวน 4 เครื่อง เพื่อป้องกันอันตรายจากเปลวไฟ
โดยเมื่อถึงฤกษ์พิธีพระราชทานเพลิงตามกำหนดพระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 วัดไตรมิตรวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานจุดเตาสรีรสังขารภายในตัวนกหัสดีลิงค์ ผู้
สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ไฟกำลังลุกโชนด้วยความรุนแรง ทำให้มีไอความร้อนจากเปลวเพลิงกระจายในวงรัศมีไม่ต่ำกว่า 10 เมตร จากตัวเมรุลอยมาถึงจุดที่ตั้งไว้สำหรับรองรับแขกและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) ได้นำหุ่นยนต์ฉีดพ่นน้ำแรงดันสูงมาประจำไว้รอบบริเวณจำนวน 4 เครื่อง เพื่อป้องกันอันตรายจากเปลวไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ตัวนกหัสดีลิงค์ใช้เวลาเผาเพียงเวลาประมาณ 15 นาที จึงเผยให้เห็นส่วนที่เป็นเตาเผาสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลา 06.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (30มกราคม) โดยตลอดเวลาที่ทำการพระราชทานเพลิงศพจะมีพระอาจารย์จาก จ.อุดรธานี เป็นผู้ดูแลทั้งหมดจนถึงขั้นตอนการเก็บเถ้าอัฐิสังขารหลวงพ่อคูณ ซึ่งขณะเก็บเถ้าอัฐินั้น จะมีญาติหลวงพ่อคูณ และพระสงฆ์จากวัดบ้านไร่ รวมแล้วประมาณ 10 คน คอยเป็นสักขีพยาน แต่ไม่มีใครสามารถแตะต้องหรือสัมผัส เถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ได้แม้แต่คนเดียว โดยจะทำได้เพียงสังเกตการณ์เท่านั้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากการจุดไฟพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ ประชาชนต่างเห็นควันไฟ ลอยขึ้นเป็นวงกลม คล้ายกับวงแหวน ของเทวดา ทำให้ทุกคนต่างพากันกราบไหว้
สำหรับสภาพอากาศโดยรวมมีท้องฟ้าปลอดโปร่ง มองเห็นหมู่ดาวได้อย่างชัดเจน โดยตลอดพิธี ได้มีการโยนดอกไม้จันทร์เพื่อเติมเป็นเชื้อไฟอยู่อย่างต่อเนื่อ
ทั้งนี้ ภายหลังจากการจุดไฟพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ ประชาชนต่างเห็นควันไฟ ลอยขึ้นเป็นวงกลม คล้ายกับวงแหวน ของเทวดา ทำให้ทุกคนต่างพากันกราบไหว้
สำหรับสภาพอากาศโดยรวมมีท้องฟ้าปลอดโปร่ง มองเห็นหมู่ดาวได้อย่างชัดเจน โดยตลอดพิธี ได้มีการโยนดอกไม้จันทร์เพื่อเติมเป็นเชื้อไฟอยู่อย่างต่อเนื่อ
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น