เปิดใจ! นัทโอนไว หลังถูกสาวหลอกอีกรอบ เมินถูกด่าโง่-แค่ขี้สงสาร!!

นายสรฉัตรจึงโอนเงินไปให้ 4 ครั้ง ระหว่างวันที่ 11 – 12 ธ.ค. 61 ครั้งแรก 20,000 บาท ครั้งที่สอง 500 บาท ครั้งที่สาม 10,600 บาท และครั้งสุดท้าย 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 36,100 บาท จากนั้นก็เริ่มติดต่อไม่ได้ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ เฟซบุ๊ก และไลน์

ซึ่ง น้องครีม คู่กรณี ให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ว่า เรื่องเงินจำนวนดังกล่าว ตนบอกกับนัทว่าจะคืนตั้งแต่แรกแล้ว รวมถึงบอกนัทตลอดเวลาว่าตนจะคืนเงินทั้งหมด ส่วนบัญชีที่รับโอนเป็นของทางบ้าน ตนตัดสินใจยืมเงินนัทเป็นเพราะเห็นว่าเป็นจังหวะที่พูดคุยกันอยู่พอดี จึงลองยืมเงิน พบว่านัทโอนเงินมาจริง ส่วนเฟซบุ๊กที่ใช้ เป็นเฟซบุ๊กที่สมัครไว้ขายของออนไลน์ ไม่ใช่รูปของตัวเอง เป็นรูปของคนในเฟซบุ๊ก และเจ้าของรูปไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้ตัดการติดต่อกับนัทแต่อย่างใด ภายหลังจึงพบว่าเพจเฟซบุ๊กโพสต์ว่าตนเป็นมิจฉาชีพ จึงมีการพูดคุยกับนัทเรียบร้อยแล้ว นัทก็ขอโทษที่ใจร้อนไปเอง

น้องครีม กล่าวอีกว่า ที่ตัดสินใจยืมเงิน เพราะอยากรู้ว่าหากลองยืมจะให้ไหม โดยบอกว่าอยากได้เงิน 20,000 บาท และหากหมุนเงินได้แล้วจะโอนเงินคืนให้เลย ตนได้พูดคุยกับพ่อแม่ของอีกฝ่ายแล้ว หากวันจันทร์ไม่ได้เงินคืน ก็สามารถแจ้งตำรวจได้เลย ยืนยันว่าจะคืน 100 เปอร์เซนต์ แต่ตอนนี้ตนไม่พร้อมจะเจอนัท ขอหาเงินให้ได้ก่อนแล้วจึงจะคืนให้ 

จากนั้น นายสรฉัตร ผลวัฒนา หรือ นัทโอนไว ให้สัมภาษณ์ในรายการทุบโต๊ะข่าวว่า ตนรู้จักกับครีมในเฟซบุ๊ก ในช่วงประมาณเดือน ธ.ค. จึงแลกไอดีไลน์พูดคุยกัน หลังจากนั้นครีมก็ขอยืมเงินจำนวน 20,000 บาท และขอยืมอีกหลายครั้ง รวมเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 36,100 บาท ตนตัดสินใจให้เพราะความสงสาร เนื่องจากครีมบอกว่าขณะนี้หมุนเงินไม่ทัน ธุรกิจมีปัญหา โดยขณะที่คุยกันตนไม่ได้เห็นใบหน้าของครีม เนื่องจากอีกฝ่ายอ้างว่า กล้องโทรศัพท์มือถือเสียทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ตนต้องนำไปแจ้งกับแอดมินเพจ คนดี 123 นั้น เนื่องจากหลังครีมยืมเงินตนไป เมื่อวานตนก็ไม่สามารถติดต่อได้ โดยอีกฝ่ายอ้างว่าต้องพาญาติไปโรงพยาบาล และนำข้าวไปให้ยาย จึงไม่สามารถรับสายโทรศัพท์ตนได้ กระทั่งวันนี้ตนโทรศัพท์ไปหาอีกครั้งในตอนเช้า แต่ครีมก็ไม่รับ ซึ่งหลังรู้ว่าครีมไม่ได้ใช้รูปจริงตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่ว่าครีมจะหน้าตาเป็นอย่างไร ตนก็ไม่ได้รังเกียจ ครีมยังสามารถเป็นเพื่อนกับตนได้ อีกทั้งคิดว่าคนเราสามารถปรับปรุงตัว และแก้ไขกันได้ เหมือนอย่าง ของขวัญ คู่กรณีคนก่อนก็ยังสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้

นายสรฉัตร กล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง ก็มีคนส่งคำขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน แถมยังมีคนมาขอยืมเงินตนเพิ่มอีก ตนยืนยันว่าจะหยุดพฤติกรรมของตัวเอง และให้เรื่องดังกล่าวเป็นบทเรียนให้กับตนอีกครั้ง ขณะนี้ตนถูกคนรอบข้างดุด่าอย่างมาก ทั้งจากครอบครัว เพื่อน และคนรู้จักของตน เพราะพ่อของตนจะเอาเรื่อง และให้เส้นตายกับครีมไว้ว่าหากในวันจันทร์นี้ (17 ธ.ค.) ไม่นำเงินมาคืนก็จะแจ้งความ

ซึ่งหน้านี้ตนก็เคยถูกหลอก จากแอปหาคู่ เป็นผู้หญิงคนหนึ่งหลอกตนว่าต้องการเงินเพื่อไปซื้อของให้ยายที่จังหวัดระยอง ตนจึงโอนเงินให้ 3,000 บาท บอกให้ตนมาเอาเงินคืนที่บ้าน ซึ่งตนก็ไปนั่งรอกว่าครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้ก็ไม่มาหาตน ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่องขึ้นตนก็ยังติดต่อกับครีมอยู่ แต่ยอมรับว่า ครั้งนี้เข็ดแล้ว