เชิดใส่! “สิตางศุ์” โดนแบนเข้าฟิลิปปินส์ แฉนายหน้ากดขี่-จำต้องทิ้งงาน (คลิป)
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เชิดใส่! “สิตางศุ์” โดนแบนเข้าฟิลิปปินส์ แฉนายหน้ากดขี่-จำต้องทิ้งงาน (คลิป)
จากกรณีสำนักข่าว ABS-CBN ฟิลิปปินส์ รายงานว่า ผู้ผลิตรายการโชว์ในฟิลิปปินส์ วิลเบิร์ต โทเลนติโน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึง "สิตางศุ์ บัวทอง" เน็ตไอดอลสาวประเภทสองคนดังของไทย ว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฟิลิปปินส์ ได้อนุมัติคำร้องขอขึ้นบัญชีดำ ห้ามสิตางศุ์เดินทางเข้าประเทศ ในฐานะบุคคลต่างด้าวซึ่งไม่เป็นที่ต้อนรับ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าสิตางศุ์ละเมิดข้อตกลงในสัญญาว่าจ้างงาน ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 20 ล้านเปโซ
สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่วันที่ 19 ตุลาคม 2561 ตนได้เดินทางไปทำงานโชว์ตัวในผับที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้เซ็นสัญญาว่าจะต้องโชว์เต้นในผับ 2 คืน คืนละ 1 แห่ง แต่เมื่อไปถึงกลับกลายเป็นต้องทำงาน 4 วัน และโชว์เต้นคืนละ 2-3 ผับ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้โวยวาย และพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ อีกฝ่ายทำสินค้าเป็นน้ำหอมโดยนำภาพของตนไปใช้ที่กล่อง และใช้ยี่ห้อเป็นผลิตภัณฑ์ของตน โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ทั้งยังร่างสัญญาขึ้นมาให้ตนเซ็น โดยเงื่อนไขในสัญญา ตนมองว่าเป็นการเอาเปรียบจึงไม่ได้เซ็น และขอให้ไปแก้ไขมาก่อน เช่น เรื่องผลิตภัณฑ์ที่จะผลิตในฟิลิปปินส์ และขายในแอปพลิเคชั่น โดยตนจะได้ส่วนแบ่งแค่ 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ซึ่งตนอยากให้มีการผลิตในประเทศไทยและวางจำหน่ายในไทย
รวมถึงเมื่อตนเซ็นสัญญา อีกฝ่ายจะเข้ามาดูแลตนอย่างเต็มตัว ทั้งเรื่องการรับงาน และการโพสต์เฟซบุ๊กที่ตนไม่สามารถโพสต์ตามใจตัวเองได้ ซึ่งปกติการโพสต์เฟซบุ๊ก คือรายได้ของตนในการรีวิวสินค้าต่างๆ และรายได้ของตนจะมาจากการโชว์ตัว 70 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ระบุว่าต้องโชว์เดือนละกี่งาน ตนจึงไม่ไว้วางใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้แก้ไขสัญญา ตนจึงไม่ได้เซ็น
ทั้งนี้ สิตางศุ์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีข่าวว่าตนติดแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเข้าประเทศฟิลิปปินส์ได้ ตนก็ไม่ได้สนใจ เพราะไม่คิดจะกลับไปอีกแล้ว และการตัดสินของศาลที่ไม่ได้ตรวจสอบจากฝั่งตน ตนก็ไม่อยากจะเคารพ ส่วนค่าเสียหาย 20 ล้านเปโซ ก็เกิดจากการกระทำของอีกฝ่ายเอง
ตนมีรายได้อยู่ในไทยแล้ว จึงไม่คิดดิ้นรนกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนไม่คิดจะฟ้องกลับ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะต้องการรักษาหน้าของตัวเองเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ
เชิญรับชมคลิปวิดีโอ
vvvv
vvv
vv
v
ที่มา amarintv
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น