เปิดใจพ่อ ลูกป่วยจิตหลังเข้าค่ายธรรมะ หยุดเรียนรักษาตัว 4 ปีไม่หาย

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาเปิดพฤติกรรมของน้องชายตัวเองว่ามีอาการป่วยทางจิต หลังจากเข้าค่ายธรรมะของโรงเรียน เมื่อ 4 ปี ที่แล้ว กระทั่งปัจจุบัน น้องชายก็ยังไม่หายเป็นปกติ แม้จะเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์แล้ว ทำให้ครอบครัวรู้สึกสงสัยว่าสาเหตุดังกล่าวนั้น มาจากค่ายธรรมะหรือไม่

โดยโพสต์ดังกล่าว ใจความว่า หลังจากกลับจากค่ายนี้ ก็รู้สึกตกใจที่อยู่ๆ น้องชายของตนเอาแต่โทษตัวเอง กลายเป็นคนหวาดระแวง และขอโทษทุกคนในบ้าน ที่ไม่ได้เป็นผู้ชาย 100% ทั้งที่ทุกคนในบ้านยอมรับได้ จึงพยายามหาถึงสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร

ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันที่เจอน้องหลังจากกลับจากค่ายนี้ น้องพูดแต่ขอโทษ ๆ ขอโทษนะแม่, ขอโทษนะพ่อ, ขอโทษนะพี่ น้องมีอาการหวาดระแวงใจสั่นตลอดเวลา ไม่สามารถนอนหลับกลางคืนได้ พอตกกลางคืนน้องจะก้มลงกราบทุกคนในบ้านทุกคืนแล้วบอกว่า น้องขอโทษ ๆ ที่บ้านต่างพากันสงสัยว่าน้องไปทำผิดอะไรมา ปรากฎคือ น้องสำนึกผิดที่ตัวเองไม่ใช่ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจริง ๆ เรื่องนี้ผมและที่บ้านก็พอรู้กันอยู่แล้ว และก็ได้มีการพูดคุยว่าทุกคนยอมรับได้ในตัวน้อง

วันที่ 26 พ.ย. 61 ผู้โพสต์เฟซบุ๊กรายดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ขณะนั้นน้องชาย อยู่ชั้น ม.4 และได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายธรรมมะของโรงเรียน ซึ่งมีพระภิกษุสงฆ์มาบรรยาย ภายหลังจากการเข้าค่าย ตนจึงสังเกตว่า น้องมีอาการแปลก ๆ คล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้า และอาการเริ่มหนักขึ้น กระทั่งครอบครัวต้องพาไปพบแพทย์ จากนั้นก็เรียนต่อที่เดิม แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเรียนได้ ครอบครัวจึงต้องให้ไปเรียน กศน. เพื่อให้ได้วุฒิ ม.6 ไปสอบเข้ามาหาลัยเอกชน

ล่าสุด ครอบครัวจึงต้องให้น้องของตนหยุดเรียนแล้ว เนื่องจากเป็นห่วง กลัวจะลืมกินยา และไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียวเนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน น้องมีอาการแบบเดิมขึ้นอีก เพราะขาดยา แต่ขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ

ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวอีกว่า น้องของตนเป็นคนร่าเริง เพื่อนเยอะ แต่หลังจากเข้าค่ายน้องก็เปลี่ยนไป ซึ่งนิสัยของน้องจะตรงข้ามกับตน คือ น้องชายจะมีนิสัยเหมือนผู้หญิง ตนได้พูดคุยกับน้องชายครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มิ.ย ที่ผ่านมา ขณะนั้นน้องก็ยังอาการปกติดี แต่หลังจากนั้นก็กลับมาอาการกำเริบอีก

นอกจากนี้ นายสุนทร ไกรมาก พ่อของผู้ป่วย เปิดเผยว่า หลังเข้าค่ายธรรมะ ลูกชายก็มีอาการทางจิต ลักษณะคล้าย ซึมเศร้า ซึ่งลูกชายไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน โดยลูกของตนกลับบ้านมาก็จะรู้สึกผิดตลอดเวลา ขอโทษพ่อแม่ บ่อย ๆ กระทั่งต้องพาไปพบจิตแพทย์ โดยแพทย์ระบุว่า ลูกชายมีอาการของคนป่วยโรคไบโพลาร์ มีอาการ 2 ขั้วอารมณ์ คือ ดีใจก็จะร่าเริงในระดับที่มากที่สุด และเสียใจในระดับที่มากที่สุดเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ตนยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าลูกเป็นอะไร แต่ต้องรักษาตามอาการไปก่อน ซึ่งขณะนี้ แพทย์แนะนำให้กินยาของผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ ซึ่งในระหว่างการรักษา ตนจึงต้องให้ลูกชายพักการเรียนก่อน แต่ขณะนี้ลูกชายกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ชั้นปี 2 ซึ่งขณะนี้พักการเรียนมาได้ 1 เทอมแล้ว

Cr:::amarintv.com