มีเงื่อนงำ! แฉพิรุธ แชทหมอ-คนไข้ “ดูแลกันชั่วชีวิต” เคยซื้อของมาฝากกันด้วย!!

"อัจฉริยะ"นำทีมบุกเมืองปากนำโพพิสูจน์คดีหมอสูติข่มขืนคนไข้สาว แฉพิรุธแชทไลน์สนิทสนมเชิงชู้สาว เคยซื้อของฝากจากต่างประเทศมาให้กันด้วย เตรียมขอดูหลักฐานมีบันทึกยอมความกันหรือไม่ หลังได้ข้อมูลโยงปมกล่าวหาตร.ขอส่วนแบ่ง ลั่นถ้าหมอผิดจริงพร้อมช่วยเหลือเหยื่อเต็มที่

จากกรณีเพจ "ทนายนิด้า" เผยแพร่เรื่องหมอ สูตินรีเวชข่มขืนคนไข้สาว ขณะเข้ารับการตรวจภายในที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ โดยหมอได้อ้างกับสาวผู้เสียหาย วัย 29 ปี เป็นคนไข้ว่า ได้ใช้ของปลอมสอดใส่อวัยวะเพศเพื่อปลุกอารมณ์ทางเพศ อ้างว่าเวลาตรวจจะได้ไม่เจ็บ ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ขณะเดียวกันหมอคนดังกล่าวได้พยายามขอไกล่เกลี่ย โดยโอนเงินให้ผู้เสียหาย 3 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี จนกระทั่งตำรวจออกหมายเรียกหมอสูติฯคนดังกล่าวให้มารับทราบข้อกล่าวหา

ความคืบหน้าวันนี้ (20 พ.ย.) เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าว่า วันนี้ตนพร้อมทีมแพทย์จะเดินทางไป จ.นครสวรรค์ เพื่อไปดูหลักฐาน ประมาณ 2-3 ชิ้น หลังมีเหยื่อรายหนึ่งวัย 29 ปี อ้างว่าถูกหมอคนดังกล่าวเคยล่วงละเมิดทางเพศ เราจะดูว่ามีบันทึกยอมความกันหรือไม่ ถ้ามีสามารถนำมาประกอบรวบรวมพยานหลักฐานบางอย่างได้ ทั้งข้อความแชททางไลน์ การโอนเงิน จำนวน 3 แสนบาท โดยให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถ้าหากหมอทำผิดตนรับหน้าที่ในการดำเนินคดี อาจจะมองว่าเป็นการใช้เทคนิคทางการแพทย์ มาฉวยโอกาสล่วงละเมิดทางแพทย์เหยื่อ เป็นเช่นนั้นจริงตนคงไม่ปล่อยให้หมอลอยนวล แต่ถ้าหมอบริสุทธิ์คนที่ทำต้องรับผิดชอบ

ถามว่า มีอะไรที่ย้อนแย้งกับการให้ข้อมูลของผู้เสียหายหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนยังตอบไม่ได้เพราะเท่าที่ทราบมา มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการแบ่งเงินเพื่อยอมความด้วย  ซึ่งเราจะไปดูว่าจริงหรือไม่ โดยเหยื่อยืนยันว่าได้เงินมาไม่ครบ ถ้าทำจริงถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง ถือเป็นการยื่นข้อเสนอให้เป็นยอมความไป

ถามว่า ก่อนหน้านี้ทางชมรมฯได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอว่าเคยไปพัวพันกับทางผู้เสียหายที่อาจจะเป็นความขัดแย้ง หรืออาจจะเกิดการแบล็คเมล์ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ลักษณะข้อความที่เราได้รับทางแชทไลน์ หรือข้อความต่างๆ เป็นเหมือนกับว่าหมอกับคนไข้ สนิทสนมถึงขั้นเป็นทางชู้สาวกันมากกว่า โดยหมอบอกว่าจะดูแลจนชั่วชีวิต เป็นข้อความที่ระหว่างหมอกับคนไข้ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ และมีการซื้อของจากต่างประเทศมาฝาก ดูแล้วห่วงใยเกินระหว่างหมอกับคนไข้ รวมถึงมีการโอนเงิน จำนวน 3 แสนบาท ตนจะตรวจสอบว่าทำไมต้องโอนเงินให้คนไข้ถ้าตัวเองไม่ได้ทำผิด

“วันนี้ทีมแพทย์ของชมรมฯจะเดินทางไปดูบาดแผลของเหยื่อที่มีการกล่าวอ้าง ผู้เสียหายขณะนี้มี ประมาณ 3 ราย เรื่องที่หมอใช้นิ้วกับอวัยวะเพศเพื่อตรวจภายใน เป็นเรื่องเทคนิคทางการแพทย์รวมถึงหมอจับเต้านม ผมไม่เคยเห็นปัญหาเกิดขึ้นกับหมอสูติเวชผู้หญิง แต่ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะหมอสูติเวชชาย แล้วการที่เราจะจับหมอสักคนต้องชัดเจน ถ้าเขาอ้างเรื่องเทคนิคทางการแพทย์เราก็ทำอะไรไม่ได้     แต่หากมีการเลีย หรือดูดนม มันไม่ใช่เทคนิคทางการแพทย์ แต่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศ และผิดศีลธรรมอย่างนี้ต้องดำเนินคดี ถึงเหตุการณ์จะเกิดขึ้นปี 2559 ก็สามารถดำเนินคดีได้ เพราะเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่การรักษาทางการแพทย์”นายอัจฉริยะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อความแชทที่แสดงถึงความสนิทสนมระหว่างหมอกับคนไข้วัย 29 ปี ตรงนี้ได้มาจากทางไหน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้จากผู้เสียหาย แต่ตรงนี้ไม่ใช่สาระสำคัญตนเพียงนำมาประกอบเท่านั้น การที่เราจะดูใครผิดใครถูก ต้องดูองค์ประกอบเรื่องการตรวจร่างกาย และอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะเงิน จำนวน 3 แสนบาท เจตนาโอนเพื่อต้องการให้ยอมความในคดีอาญา แต่ในเรื่องศีลธรรม จริยธรรม ถ้าหมอเคยทำกับบุคคลอื่นหมอแบบนี้ก็ไม่ควรจะอยู่ เพื่อไม่ให้เป็นภัยสังคม

"นโยบายผมคือไม่ได้ช่วยหมอ ผมจะช่วยเหลือคนที่ตกเป็นเหยื่อซึ่งมันต่างกัน หมอมีเงินเยอะที่จะจ้างทนายความชั้น 1 ส่วนเหยื่อเป็นผู้หญิงแทบจะไม่มีทางต่อสู้กับทางการแพทย์ จุดมุ่งหมายของผมคือช่วยเหลือถ้าถูกละเมิดจริง" นายอัจฉริยะ กล่าว