โผล่อีก! เหยื่อนับสิบ!! หมอใหญ่ข่มขืนคนไข้สาว 3แสนปิดปาก เจ้าตัวลั่นปฏิเสธ!

ชงแพทยสภาสอบเอาผิดได้ ด้านแพทยสภาตั้งกก.สอบในอีก 2 สัปดาห์ ฉาวหนัก เพจทนายดังแฉอ้างใช้ของปลอมตรวจแต่ดันสวมถุงยางอนามัยให้ของปลอมด้วย ระบุจากแช็ตพบมีอ้างตอนตรวจกลัวคนไข้เจ็บเลยปลุกอารมณ์ก่อน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.เมืองนครสวรรค์ นายแพทย์ของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในจ.นครสวรรค์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.บุญเชิด จันทร์มณี รอง ผกก.(สอบสวน) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ตามที่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

พนักงานสอบสวนจึงทำบันทึกปากคำไว้ โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานเอกสาร พยานหลักฐานอื่นๆ เช่น การส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และหลักฐานจากทางผู้เสียหาย รวมถึงข้อมูลจากทางระบบอินเตอร์เน็ตที่มีการติดต่อกันระหว่างผู้ถูกกล่าวหากับผู้เสียหาย

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานราชการหญิงอายุ 29 ปี สังกัดส่วนราชการท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ป่วยด้วยอาการปวดท้องอย่างมาก โดยตนเองเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง แต่อาการยังไม่หาย จึงมาเข้ารับการรักษาตัวที่คลินิกในเมืองนครสวรรค์ ผู้เสียหายให้การว่า ตนเองได้เปลี่ยนชุดเพื่อจะเข้าห้องให้หมอตรวจอวัยวะภายใน หลังจากนั้นได้ขึ้นนอนบนเตียงขาหยั่งตามที่หมอสั่ง ผู้ถูกกล่าวหาก็ทำการตรวจภายในโดยใช้กล้องส่องดูเพื่อให้ภาพจากกล้องขึ้นจอ โดยปิดไฟและล็อกประตูห้องตรวจ

หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วจับที่อวัยวะเพศของตนเองแล้วเดินเข้ามายืนใกล้เตียงที่ตนเองนอนแยกขา จากนั้นใช้อวัยวะเพศมาถูไถกับอวัยวะเพศของตนเอง โดยใช้มือกดที่ท้องน้อยของตนและถูไถด้วยอวัยวะเพศของหมอ หมอบอกว่าจะแนะนำการร่วมเพศที่ถูกต้องให้ แต่ตนเองบอกว่ารู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ หมอก็ยังไม่ยอมหยุดและก้มตัวลงมาทับตนเองรวมทั้งพยายามซุกไซ้ที่ลำคอ กอดตนเองไว้แน่น แล้วบอกอีกว่าให้คิดว่ากำลัง มีเพศสัมพันธ์ ตนเองพยายามผลักดันตัวหมอออก

ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองยังมีอาการปวดท้องอยู่จึงมาตรวจอีกครั้งหนึ่งที่คลินิกเดิม ตนเองก็ขึ้นนอนเตียงขาหยั่งเพื่อตรวจภายใน แต่เกิดเหตุการณ์แบบเดิมอีก คือมีการพยายามที่จะใช้อวัยวะเพศของหมอล่วงล้ำเข้ามาในอวัยวะเพศของตนเอง คือพยายามข่มขืน และใช้ปากเป่าที่อวัยวะเพศของตนเอง นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องมือและนิ้วมือแหย่เข้ามาในอวัยวะเพศของตนเอง จนรู้สึกเจ็บ ใช้เวลานานเกือบ 20 นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น เพจทนายนิด้าเผยแพร่เรื่องราวหมอข่มขืนคนไข้สาวระหว่างตรวจภายใน โดยระบุว่าตอนแรกหมออ้างใช้ของปลอมสอดใส่ แต่กลับใส่ถุงยางให้ของปลอมด้วย พร้อมเผยแพร่แช็ตที่ดาราสาว “บุ๋ม”ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เล่าเรื่องราวและข้อมูลเหตุการณ์ในครั้งนี้

โดยเพจทนายนิด้าระบุว่า “หมอใหญ่ข่มขืนกระทำชำเราหญิงตอนตรวจภายใน อ้างใช้ของปลอมสอดใส่ ไม่ได้ใช้ของตัวเองใส่ แต่ดันใส่ถุงยางให้ของปลอมด้วย เซฟตี้มากๆ กราบในความพิจารณาความปลอดภัยให้คนไข้” ทั้งระบุด้วย เชื่อว่าไม่ใช่คนแรกที่ถูกทำแบบนี้และไม่ใช่คนเดียวแน่นอน ซึ่งเหยื่อสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้วนั้น

ต่อมาพบว่ามีการเผยแพร่แช็ตเพิ่มเติมระบุข้อความว่า ใช้ของปลอมเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศคนไข้ เพื่อลดความเจ็บปวด นอกจากนี้เพจทนายนิด้าระบุด้วยว่า แพทย์ที่ก่อเหตุได้เจรจาให้เงินเหยื่อเพื่อให้เรื่องเงียบ โดยการเปิดเผยของ “บุ๋ม”ปนัดดาต่อสื่อมวลชน ว่า ช่วงเช้าของเมื่อวาน (14 พ.ย.) คุณหมอได้ โอนเงินให้ผู้เสียหาย 3 แสนบาท เพื่อปิดคดี พร้อมกับไลน์บอกผู้เสียหายว่า ขอโทษ ผิดไปแล้ว และคุณหมอได้สารภาพว่าเป็นคนลงมือข่มขืนผู้เสียหาย

วันเดียวกัน ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศ ไทย กล่าวว่า โดยหลักการทางการแพทย์จะ มีขั้นตอนการตรวจภายในที่เป็นมาตรฐานชัดเจน ซึ่งหากแพทย์ฝ่าฝืน ถือว่าผิดมาตรฐาน ผู้เสียหายสามารถไปร้องต่อแพทยสภาได้ ซึ่งตามขั้นตอนแพทยสภาจะส่งเรื่องสอบถามมาตรฐานมายังราชวิทยาลัยสูติฯ เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมกัน

ศ.นพ.ภิเศก กล่าวว่า ส่วนมาตรฐานจะประกอบไปด้วย 1.ก่อนทำการตรวจภายใน แพทย์สูตินรีเวชจะต้องวินิจฉัยอาการก่อนว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่ 2.หากจำเป็นต้องตรวจจะแจ้งขั้นตอนต่างๆ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร 3.สำคัญสุดต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้หญิงคอยอยู่ในกระบวนการตรวจภายใน เพราะนอกจากจะเป็นพยานให้แพทย์แล้ว ยังทำให้ผู้ถูกตรวจสบายใจ ซึ่งกรณีนี้หากไม่มีบุคคลที่ 3 ต้องยืนยันไม่รับการตรวจเด็ดขาด และ 4.ระหว่างตรวจต้องแจงขั้นตอนทุกครั้ง ทั้งเริ่มจากคนไข้ขึ้นเตียงที่เป็นขาหยั่ง จากนั้นตรวจภายนอกก่อนว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ และใช้เครื่องมือที่รู้จักดีคือปากเป็ด เพื่อสอดเข้าไปตรวจภายในดูผนังเยื่อบุมดลูกมีอาการอักเสบหรือไม่ ตรงนี้จะเห็นมดลูกด้วย จากนั้นใช้นิ้วในการตรวจ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะแจ้งให้คนไข้ทราบตลอด เพื่อให้คนไข้เตรียมพร้อมและเกิดความสบายใจขึ้น สุดท้ายมานั่งคุยกับแพทย์ว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่อย่างไร

วันเดียวกัน เวลา 14.30 น. ที่งานโฮมโปร เอ็กซ์โป เมืองทองธานี “บุ๋ม”ปนัดดา ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้เสียหายเป็นผู้หญิงอายุ 24-25 ปี ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ติดต่อมาที่องค์กรช่วยเหลือสตรี เปิดเผยถึงพฤติกรรมของคุณหมออายุประมาณ 40-45 ปี เป็นหมอประจำคลินิกเวชกรรมชื่อดังใน จ.นครสวรรค์ โดยผู้เสียหายเล่าว่าได้เข้าไปตรวจร่างกายกับคุณหมอคนนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกไม่มีความผิดปกติอะไร กระทั่งเดือนก.ย. ผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจภายในอีกครั้ง และถูกข่มขืน เมื่อกลับบ้านมาก็ไม่กล้าบอกกับใคร จิตตก เครียดมาก เนื่องจากคุณหมอมีชื่อเสียงในจังหวัด กลัวว่าจะไม่สามารถเอาผิดได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้ติดต่อมายังตน

“บุ๋ม”ปนัดดา กล่าวอีกว่า ครั้งแรกที่ตนทราบเรื่องก็ได้พิจารณาจากพยานหลักฐานที่ทางผู้เสียหายมี โดยผู้เสียหายไปตรวจร่างกายหลังจากถูกคุณหมอข่มขืนหลายวันผ่านไปแล้ว ผลตรวจจึงไม่พบว่ามีร่องรอยของการข่มขืน ทีมงานของตนจึงต้องหาหลักฐานอื่น โดยการพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่สภ.เมืองนครสวรรค์ก่อน เมื่อคุณหมอทราบว่าผู้เสียหายไปแจ้งความ ได้พูดคุยผ่านไลน์และโอนเงินมาให้ 50,000 บาท เพื่อให้ถอนแจ้งความ แต่ผู้เสียหายไม่ถอนแจ้งความ คุณหมอจึงเปลี่ยนวิธีการใหม่โดยการส่งของมาให้ที่บ้าน พูดจาหวาน บอกรัก คล้ายกับเป็นชู้รักกับผู้เสียหาย โดยล่าสุดช่วงเช้าของเมื่อวานที่ผ่านมา คุณหมอได้โอนเงินให้ผู้เสียหาย 3 แสนบาท เพื่อให้ผู้เสียหายปิดคดี พร้อมกับไลน์มาบอกว่า ขอโทษ ผิดไปแล้ว และสารภาพแล้วว่าข่มขืนผู้เสียหาย

“บุ๋ม”ปนัดดา กล่าวด้วยว่า สำหรับสภาพจิตใจของผู้เสียหาย ตนได้พูดคุยกับครอบครัวของผู้เสียหายแล้วทราบว่าขณะนี้ผู้เสียหายอยู่ในภาวะจิตตก ต้องพบจิตแพทย์ กลายเป็นคนหวาดกลัวผู้ชาย ซึ่งครอบครัวเป็นห่วงมาก และไม่อยากให้มีผู้หญิงรายอื่นตกเป็นผู้เสียหายอีก

“บุ๋ม”ปนัดดา เปิดเผยต่อว่า หลังจากที่เป็นข่าวไปก็มีผู้หญิงมากมาย อายุประมาณ 20 ปี แจ้งมาทางตนในลักษณะถูกหมอคนดังกล่าวลวนลามและข่มขืน เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก พฤติกรรมของคุณหมอคนนี้ทำมานานหลายปีแล้ว ผู้เสียหายบางรายแจ้งว่าถูกลวนลามในขณะที่ฝึกงานอยู่ที่คลินิกดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมผู้เสียหายเพิ่ม เบื้องต้นทราบว่ามีประมาณ 10 ราย พฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แพทยสภาจะ ไม่ปกป้องคุณหมอคนนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากทำให้วงการแพทย์เสื่อมเสียชื่อเสียง