รายได้วันละแสน! สาวภูเก็ตหัวใส เรียกค่าเข้าชายหาดเขตป่าสงวน!!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ รายได้วันละแสน! สาวภูเก็ตหัวใส เรียกค่าเข้าชายหาดเขตป่าสงวน!!
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. และเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานาคเกิด ม.1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต พร้อมจับกุมสองผู้ต้องหา หลังพบว่ามีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าใช้บริการริมชายหาดฟรีดอมภูเก็ต ในอัตราหัวละ 200 บาท ทั้งที่ชายหาดดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ป่าสงวน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่ามีกลุ่มบุคคลที่ดำเนินการเก็บค่าเข้าพื้นที่ดังกล่าวรายละ 200 บาทจึงได้นำกำลังเข้ามาตรวจสอบเนื่องจากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ป่าสงวน อีกทั้งก่อนหน้านีทางชุดพยัคฆ์ไพรได้แจ้งว่ากรมที่ดินได้เพิกถอนเอกสารสิทธิ ไปเนื่องจากที่ดินทั้งสองแปลงอยู่ในที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้ที่ดินเนื้อที่ 65 ไร่ หมดสภาพการมีเอกสารสิทธิ ต้องตกเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ผ่านมาทางกรมป่าไม้ได้ทำหนังสือแจ้งมายังเจ้าของที่ดินให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่เป็นเวลา 30 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.2559 เป็นต้นมา เจ้าของที่ดินได้อุทธรณ์ แต่ทางกรมป่าไม้ไม่รับคำอุทธรณ์ดังกล่าว ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมป่าไม้ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าเจ้าของเอกสารสิทธิเดิมที่ครอบครองก่อนที่กรมที่ดินจะเพิกถอน ได้มีการเก็บตั๋วค่าผ่านทางไปยังหาดฟรีดอมหัวละ 200 บาท จึงได้แจ้งจับดำเนินคดี พร้อมนำส่งสภ.กะรน ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบสวนทั้งสองให้การว่าเรียกเก็บค่าให้บริการตั้งแต่ก่อนที่ศาลจะตัดสินให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมอุทยาน โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 5หมื่น-1แสนบาท
ขณะที่นายชีวะภาพ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการขึ้นป้ายตรวจยึดพื้นที่ บริเวณทางเข้าที่ดินแปลงดังกล่าวทั้ง 2 ประตู หลังจากนั้นหากเจ้าของไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออก ทางกรมป่าไม้ก็จะมีวิธีการบังคับให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 25 ตามคำสั่งปกครองของกรมป่าไม้ และหากยังไม่รื้อถอนอีกทางกรมป่าไม้ก็จะทำการรื้อถอนเอง โดยจะเรียกเก็บค่ารื้อถอนจากผู้ที่ฝ่าฝืน เพราะที่ดินทั้งสองแปลงเป็นสมบัติของชาติ ประชาชนทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงสำรวจลงไปใกล้ชายหาด ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ก็ได้พบกับ หญิงคนหนึ่งที่คนระแวกนั้นเรียกว่า เจ๊สาว ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ดูแลพื้นที่ บริเวณริมชายหาดฟรีดอม และอ้างว่าพ่อตนเองทำมาหากิน โดยการปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์บริเวณนี้มา 50 ปี แล้ว และ เมื่อนักท่องเที่ยวแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวแล้วมาพบกับที่นี่ จึงได้เอื้อเฟื้อให้เข้ามาเที่ยวและสร้างเป็นร้านอาหาร จนกลายเป็นการบอกต่อ ทำให้นักท่องเที่ยวมาจำนวนมาก ในส่วนที่มีการเรียกเก็บเงินจำนวน 200 บาท บริเวณทางเข้าหาดด้านบนที่เป็นทางลาดชันนั้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง พร้อมยินดีที่จะให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การครอบครอง ต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นตัวนี้พิพาทกันระหว่างกรมป่าไม้และเจ้าของผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ สำหรับที่ดินแปลงพิพาทนี้อยู่ติดทะเล จัดเป็นที่สวยงามมาก หากมีการซื้อขาย จะมีราคาไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการคลายข้อพิพาทดังกล่าวทางพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมที่ดิน กรมป่าไม้ และกรมอุทธยาน วางแนวทางหารือในการตรวจสอบและเปิดโอกาสผู้ดูแลที่ดินพื้นดังกล่าว นำเอกสารการครอบครองสิทธิมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และทำข้อเท็จจริงปรากฎโดยเร็ว
ที่มา springnews
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น