สุดสลด! เด็ก ม.1 อัดคลิปตัดพ้อเผยสาเหตุฆ่าตัวตาย ก่อนผูกคอดับ!!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ สุดสลด! เด็ก ม.1 อัดคลิปตัดพ้อเผยสาเหตุฆ่าตัวตาย ก่อนผูกคอดับ!!
วันที่ 3 ต.ค. เวลา 06.00 น. ร.ต.อ.ประกรรษวัต เณรแขก พนักงานสอบสวน สภ.เมือง อุบลราชธานี พร้อมแพทย์ เข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 147 บ้านขี้เหล็ก หมู่ 2 ต.ขี้เหล็ก อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หลังได้รับแจ้งว่า มีเด็กหญิงผูกคอตายเสียชีวิตภายในบ้านหลังดังกล่าว พบ ด.ญ.พิมพ์ชนก แสนดวง อายุ 13 ปี หลานของเจ้าของบ้าน โดยใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องครัวหลังบ้าน จึงนำศพลงมาให้ตรวจสอบ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ
ร.ต.อ.ประกรรษวัต ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ ด.ญ.พิมพ์ชนก พบคลิปเสียง พูดบ่นน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง ที่พ่อแม่แยกทางกันและไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยมาดูแล อีกทั้งเช้าวันนี้ ด.ญ.พิมพ์ชนก กำลังจะสอบไล่กลางปี แต่พ่อและแม่ ไม่ได้โทรศัพท์มาหาพูดคุยด้วย ทำให้น้อยใจ พร้อมทั้งกลัวสอบไม่ได้ เพราะยังอ่านหนังสือไม่ออก และเขียนไม่ได้ จึงขอลาตาย
นายธีระยุทธ แสนดวง อายุ 57 ปี ปู่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิต เล่าว่า หลานสาวเป็นบุตรของ นายพูลศักดิ์ แสนดวง บุตรชาย กับ นางวิลัยลักษณ์ ชมชื่น ลูกสะใภ้ที่ได้แยกทางกันตั้งแต่หลายยังแบเบาะ และได้นำมาให้ ตนและภรรยาเป็นผู้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก เวลาปิดภาคเรียนพ่อและแม่ ก็จะมารับหลานสาวผลัดเปลี่ยนไปอยู่ด้วยที่ต่างจังหวัด แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุคนไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (กะกลางคืน) หลานสาวจึงอยู่กับย่า เมื่อกลับมาถึงบ้านช่วงเช้ามืด เห็นไฟในห้องครัวเปิดอยู่ คิดว่า หลานสาวลงมาเตรียมตัวจะไปโรงเรียน จึงเข้าไปดู แต่กลับพบหลานสาวใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว จึงรีบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ นายถาวร พิมพ์หล่อ ผู้ใหญ่บ้านขี้เหล็ก ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องปู่ของเด็กหญิงพิมพ์ชนก และมีบ้านอยู่ติดกัน เล่าถึงปัญหาของหลานสาวว่า เป็นเด็กสมาธิสั้น แม้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แต่ก็ยังอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ แต่เป็นเด็กที่เก่งกิจกรรม ช่วยเหลืองานของโรงเรียนเป็นอย่างดี ซึ่งอาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เด็กหญิงพิมพ์ชนก เครียดกับชีวิตกลัวสอบไม่ผ่าน ทำให้คิดสั้นใช้เชือกผูกคอตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว
ที่มา workpointnews
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น