ตร.สรุปไม่มีแหม่มโดนข่มขืนที่เกาะเต่า! จ่อหมายจับเพจดังทำลายภาพลักษณ์ประเทศ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ตร.สรุปไม่มีแหม่มโดนข่มขืนที่เกาะเต่า! จ่อหมายจับเพจดังทำลายภาพลักษณ์ประเทศ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ส.ค. ที่สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผบช.สพฐ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าพบ นายพอล เคย์ กงสุลใหญ่ประจำ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เพื่อนำรายงานข้อเท็จจริงชี้แจง กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษปรากฏเป็นข่าวว่าถูกข่มขืน ที่เกาะเต่า
ทั้งนี้ มีรายงานว่าพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. และคณะ ได้นำรายงานข้อเท็จจริงที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และการจำลองเหตุการณ์ ตลอดจนการสอบปากคำพยานแวดล้อม เสนอต่อ นายพอล เคย์ กงสุลใหญ่สหราชอาณาจักร โดยใช้เวลาในการหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง
ภายหลังการเข้าพบพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนนำหนังสือจากผบ.ตร. ซึ่งเป็นรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเสนอต่อกงสุลใหญ่ โดยสรุปได้ว่าการตรวจสอบตามคำสั่งของทางผบ.ตร. ถือว่าจบสมบูรณ์แบบสามารถยืนยันได้ว่าจากร่องรอยวัตถุพยาน การสอบปากคำพยาน และการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงตามสภาพแวดล้อม รวมทั้งตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ได้มอบหมายให้พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผบช.สพฐ นำทีมงานลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรก ทั้งนี้จากการตรวจสอบท มีการจำลองเหตุการณ์ตามรายละเอียดที่ทางผู้เสียหายระบุว่า รู้สึกเหมือนถูกมอมยาอยู่ที่ร้านลีโอ บาร์ ถูกอุ้มมาข่มขืนที่บริเวณลานหินจปร. โดยจุดดังกล่าวมีระยะห่าง 300 เมตร ได้มีการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง มีการตรวจสอบน้ำขึ้นน้ำลง ปรากฏว่า ในคืนวันเกิดเหตุเป็นวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลบอลโลก ซึ่งทางผู้เสียหายอ้างว่าได้นั่งดื่มกินอยู่ที่ริมหาด แต่จากการสอบปากคำพยาน ตรวจสอบระดับน้ำขึ้นลงพบว่า ห้วงเวลาดังกล่าวระดับน้ำสูงถึง 400 เมตร ขึ้นมาจนถึงฝั่งไม่มีใครสามารถนั่งดื่มที่บริเวณนั้นได้ ซึ่งหากเป็นไปตามที่ผู้เสียหายอ้างว่ามีการอุ้มไปที่โขดหินจปร.จริงก็ต้องเป็นการอุ้มไปในน้ำ ซึ่งถ้าเดินในน้ำถือว่าผิดปกติเป็นอย่างมากถ้าเทียบกับสถานการณ์ขณะนั้น เนื่องจากในวันดังกล่าวมีประชาชนนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก การเดินไปยังจุดเกิดเหตุจะต้องเดินลุยน้ำทะเลไปยังโขดหินซึ่งจะเป็นจุดสนใจ และมีการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยบริเวณริมชายหาดจึงไม่สามารถที่จะเป็นไปตามคำกล่าวอ้างนั้นได้ จึงทำให้สามารถสรุปได้ว่า ไม่มีการวางยาและการข่มขืนเกิดขึ้น
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังสอดรับกับทางกงสุลใหญ่ที่ระบุว่าหลังเกิดเหตุไม่ได้มีการรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายแต่อย่างใด มีเพียงแค่ผู้เสียหายเดินทางกลับไปให้ข้อมูลกับทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของประเทศอังกฤษซึ่งการที่เรานำข้อมูลเป็นรายงานนำเสนอต่อทางกงสุลใหญ่ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าทางการไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เรามีความตั้งใจจริง และไม่ตำหนิฝ่ายใดทั้งสิ้น สิ่งที่เราทำก็คือการทำความจริงให้ปรากฏ ทำให้สถานทูตอังกฤษเห็นถึงความตั้งใจจริงของทางการไทยที่จะค้นหาความจริง โดยหลังจากนี้ทางสถานทูตอังกฤษจะประสานไปทางประเทศอังกฤษเพื่อที่จะขอคำให้การของผู้เสียหายที่เดินทางไปให้ปากคำกับทางตำรวจอังกฤษ รวมทั้งขอร่องรอยวัตถุพยานเช่น เสื้อผ้าที่มีคราบอสุจิติดอยู่ที่ทางผู้เสียหายให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ส่งกลับมาให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลา อย่างเร็วที่สุดภายในหนึ่งเดือน ก่อนที่จะประสานทางสถานทูตอีกครั้ง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการที่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความนั้น จากการตรวจสอบไม่มีการแจ้งข่มขืน มีแต่การแจ้งเรื่องทรัพย์สินสูญหาย เพราะฉะนั้นการดำเนินการทั้งหมด ทางพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รวมถึงตน ขอยืนยันว่าเราจะไม่ปกป้องเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในการทำงานวันนี้ของเรา มีจุดมุ่งหมายเดียวคือการแสวงหาความเป็นจริงเพื่อปกป้องชื่อเสียงของประเทศไทย ปกป้องชื่อเสียงของแหล่งท่องเที่ยวของไทย ส่วนกรณีที่ระบุว่าแม่ของผู้เสียหายจะเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีนั้น ทางแม่ของผู้เสียหายนั้นไม่ใช่พยานบุคคลที่สำคัญจึงไม่มีผลต่อรูปคดี ทั้งนี้จะมีการออกหมายจับเจ้าของเพจสองเพจ คือเพจสมุยไทม์ และเพจ CSI LA ที่โพสต์ข้อความ เหตุการณ์ดังกล่าวจนสร้างความเสื่อมเสียทางด้านการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้สามารถพิสูจน์ตัวตนของเจ้าของเพจได้แล้ว และคาดว่าน่าจะมีการการออกหมายจับได้ภายในวันนี้ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมทั้งคนแชร์ข้อมูลก็มีความผิดด้วย ก็จะออกหมายเรียกเข้ามาให้ข้อมูล
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น