แฉขบวนการตุ๋นลงทุนทองคำ เหยื่อสูญ 50ล. พบจนท.อบต.ร่วมด้วย!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ แฉขบวนการตุ๋นลงทุนทองคำ เหยื่อสูญ 50ล. พบจนท.อบต.ร่วมด้วย!
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 25 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 รวมกันแถลงจับกุมตัวนางปวีรา วงษ์ภักดี อายุ 38 ปี, นายตะวัน ประทุมมี อายุ 31 ปี สามีภรรยา และน.ส.รัศนพาพร อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของนายตะวัน ที่ร่วมกันหลอกลวงร่วมลงทุนซื้อขายทองคำ โดยการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อชักชวนร่วมลงทุนเก็งกำไรทองคำแท่ง
โดยลงทุน 10 วัน จะได้ทุน+กำไรกลับคืน โดยอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าในท้องตลาดมาจำหน่ายให้กับเพื่อนสมาชิก เพื่อนำไปจำหน่ายต่อทำกำไร โดยไม่มีหน้าร้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ค่าเช่า ค่าพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้ขายทองคำได้ในราคาถูก โดยร่วมลงทุน 18,000 บาท สามารถขายได้ 19,700 บาท ซึ่งการลงทุนในระยะแรกจะได้ผลกำไรจริง จึงหลงเชื่อและร่วมลงทุนเพิ่ม จากนั้นก็เริ่มไม่จ่ายเงินตามข้อตกลง โดยอ้างว่าบุคคลอื่นเอาเงินไป โดยมีผู้ที่หลงเชื่อ 30 ราย มูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท
บิ๊กโจ๊ก แถลงจับผู้ต้องหาตุ๋นลงทุนทองคำ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กลักษณะเชิญชวนให้คนมาลงทุนเก็งกำไรทองคำแท่ง โดยโฆษณาว่าลงทุน 10 วัน จะได้ทุนบวกกำไรกลับคืน โดยอ้างว่าลงทุนซื้อทองคำแท่งในราคาถูก เนื่องจากไม่มีหน้าร้าน ไม่เสียค่าพนักงาน ไม่มีค่าน้ำค่าไฟ ทำให้ซื้อทองได้ถูกลงกว่าที่อื่น ทำให้มีคนหลงเชื่อลงทุนเพิ่ม เมื่อคนเริ่มซื้อทองมากขึ้น ครั้งแรกก็มีทองคำมาให้ แต่เมื่อปริมาณสั่งซื้อทองคำมากขึ้น ก็ไม่มีทองมาให้แล้ว เพราะหมุนเงินไม่ทัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า โดยอ้างว่าขอไม่จ่ายเงินตามที่ตกลงไว้ เพราะมีบุคคลอื่นเอาเงินไป ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เมื่อได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 1 สัปดาห์ ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งชุดสืบสวนที่ติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ทราบว่ายังมีผู้อยู่เบื้องหลังอีก ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมดำเนินคดีต่อไป
3 ผู้ต้องหาตุ๋นลงทุนทองคำ
จากการสอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหานั้น นางปวีรา รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่อบต.แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ส่วนแบ่งจากการหาลูกค้าแต่ละหัวในราคา 50 บาท และได้เปอร์เซ็นต์จากการซื้อขายทองคำแท่งอีก เฉลี่ยต่อเดือนจะมีรายได้เดือนละ 2-3 แสนบาท โดยทำมาแล้ว 1 ปี จะมีการโอนเงินของประชาชนที่หลอกมาได้ ไปยังตัวแทนที่นำทองมาให้ตนอีกต่อหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน น.ส.ภคพรรณ อเนชากุล อายุ 40 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัวขายของออนไลน์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ต้องหาเมื่อปี 2560 โดยผู้ต้องหาได้ลงโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กเรื่องการขายทอง โดยอ้างว่า ราคาจะถูกกว่าท้องตลาด 2,000-3,000 บาท ตนได้ตรวจสอบโปรไฟล์และรายละเอียดต่างๆ พบว่าจะต้องมีการลงชื่อสมัครสมาชิกก่อนแล้วจะมีการออกบัตรตัวแทนให้ จึงคิดว่ามีความน่าเชื่อถือมาก
สอบปากคำ 3 ผู้ต้องหา
น.ส.ภคพรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นสมาชิกก็จะมีส่วนลดราคาทองให้ถูกลงไปอีก จากนั้นก็ทำการนัดรับทองตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งในช่วงแรกมีการนำทองมาซื้อขายจริง และตนก็สามารถนำทองไปขายให้กับร้านค้าทองทั่วไปได้จริง จึงมีการซื้อขายทองมาแล้ว 10 ครั้ง ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2560 จนกระทั่งมีผู้ที่มาร่วมลงทุนกับตนประมาณ 20 คน ก็มีการลงทุนหมุนเวียนกันประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งได้กำไรมาแล้ว 20 ล้าน ยังคงเหลือกำไรที่จะต้องได้อีกประมาณ 34 ล้านบาท
“ต่อมาช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทางผู้ต้องหาอ้างว่าเพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลาและสะดวกกับลูกค้าสมาชิก ก็ได้เปลี่ยนการซื้อขายทองที่จะต้องนัดรับเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีแทน และเมื่อโอนแล้วจะไม่สามารถถอนเงินที่โอนไปแล้วออกได้ จากนั้นผู้ต้องหาจะเป็นคนดำเนินการทองทั้งหมด เมื่อขายทองได้โดยมีระยะเวลา 7-10 วัน ก็จะมีการโอนกำไรมาให้ซึ่งทำมาเรื่อยๆ กระทั่งเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกคนในทีมยักยอกเอาทองที่จะนำมาขายให้กับสมาชิกไป จึงไม่มีทั้งต้นทุนและเงินกำไรมาคืนให้กับสมาชิก” ผู้เสียหาย กล่าว
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น