ลูกบ้านเทขยะ-เต้นหน้าป้อมยาม ขอโทษสังคม พร้อมเผยเหตุผลทำไมทำแบบนั้น!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ลูกบ้านเทขยะ-เต้นหน้าป้อมยาม ขอโทษสังคม พร้อมเผยเหตุผลทำไมทำแบบนั้น!
ลูกบ้านเทขยะ-เต้นหน้าป้อมยาม เข้าพบ ตร. ขอโทษสังคม ยันทำไปเพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรม รปภ.
นายชาญพัฒน์ พร้อม ทนาย พบพนักงานสอบสวน สน. หัวหมาก แล้วพร้อมกล่าวขอโทษสังคม ยืนยันทำไปเพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของ รปภ. ที่กลั่นแกล้งคนในครอบครัวและเห็นความไม่ชอบมาพากลของการเก็บค่าส่วนกลาง
นายชาญพัฒน์ ชาญพัฒนาการ ลูกบ้านที่ก่อเหตุแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งนำขยะ และนำปัสสาวะ มาทิ้งป้อมยามหน้าหมู่บ้าน อีกทั้งขับรถชนกรวย เนื่องจากไม่พอใจนิติบุคคล ที่ไม่ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาให้บ้านตนเอง พร้อมด้วยนายไชยยงค์ สุดใจ ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน. หัวหมาก เพื่อชี้แจงจ้อเท็จจริงภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางนิติบุคคลของหมู่บ้านนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่มาแจ้งความ
นายชาญพัฒน์ พร้อม ทนาย พบพนักงานสอบสวน สน. หัวหมาก แล้วพร้อมกล่าวขอโทษสังคม ยืนยันทำไปเพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของ รปภ. ที่กลั่นแกล้งคนในครอบครัวและเห็นความไม่ชอบมาพากลของการเก็บค่าส่วนกลาง
นายชาญพัฒน์ ชาญพัฒนาการ ลูกบ้านที่ก่อเหตุแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งนำขยะ และนำปัสสาวะ มาทิ้งป้อมยามหน้าหมู่บ้าน อีกทั้งขับรถชนกรวย เนื่องจากไม่พอใจนิติบุคคล ที่ไม่ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาให้บ้านตนเอง พร้อมด้วยนายไชยยงค์ สุดใจ ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน. หัวหมาก เพื่อชี้แจงจ้อเท็จจริงภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางนิติบุคคลของหมู่บ้านนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่มาแจ้งความ
นายไชยยงค์ กล่าวว่า นายชาญพัฒน์ยอมรับว่าเป็นคนในภาพและกระทำการดังกล่าวจริง คาดว่าสาเหตุนาาจะมาจากเรื่องอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่นิติบุคคลไม่ปล่อยสัญญาณไปที่บ้าน ซึ่งเป็นภาระจำยอมที่นิติบุคคลต้องปล่อยสัญญาณให้ลูกบ้านทุกหลัง ซึ่งความเป็นจริงบ้านนายชาญพัฒน์ ซื้อมาตั้งแต่ พศ 2547 ซึ่งยังไม่มีนิติบุคคล ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อปี 2552 ดังนั้นจึงเป็นบ้านที่ไม่ขึ้นกับนิติบุคคลแน่นอน อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ระบุข้อกล่าวหาที่แน่ชัด จึงยังไม่ตัดสินใจฟ้องกลับหรือไม่ จนกว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา
ด้าน นายชัยพัฒน์ กล่าวขอโทษสังคมและเพื่อนบ้าน ยืนยันไม่มีเจตนาที่จะทำให้สังคมหรือเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนพร้อมกันนี้ ยังกล่าวอีกว่าบ้านของตนย้ายเข้ามาเป็นหลังแรกและไม่ได้อยู่ในนามของนิติบุคคลของหมู่บ้านแรกๆ แต่เห็นความไม่ชอบมาพากลของเงินค่าส่วนกลางที่เก็บปีละ เกือบ 2,000,000 บาทแต่นำมาใช้จริงๆ น่าจะไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้ทางครอบครัวตัดสินใจไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลางเป็นเวลานานถึง 9 ปี เมื่อตนกลับมาจากเมืองนอกพบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าป้อมยามที่แสดงกิริยาไม่สุภาพกับครอบครัว อีกทั้งมีการกันแกล้งครอบครัวของตนมาโดยตลอดทำให้รับไม่ได้จนต้องกระทำการดังกล่าว
Cr:::morning-news.bectero.com
ด้าน นายชัยพัฒน์ กล่าวขอโทษสังคมและเพื่อนบ้าน ยืนยันไม่มีเจตนาที่จะทำให้สังคมหรือเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนพร้อมกันนี้ ยังกล่าวอีกว่าบ้านของตนย้ายเข้ามาเป็นหลังแรกและไม่ได้อยู่ในนามของนิติบุคคลของหมู่บ้านแรกๆ แต่เห็นความไม่ชอบมาพากลของเงินค่าส่วนกลางที่เก็บปีละ เกือบ 2,000,000 บาทแต่นำมาใช้จริงๆ น่าจะไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้ทางครอบครัวตัดสินใจไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลางเป็นเวลานานถึง 9 ปี เมื่อตนกลับมาจากเมืองนอกพบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าป้อมยามที่แสดงกิริยาไม่สุภาพกับครอบครัว อีกทั้งมีการกันแกล้งครอบครัวของตนมาโดยตลอดทำให้รับไม่ได้จนต้องกระทำการดังกล่าว
Cr:::morning-news.bectero.com
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น