รถชนหนุ่มลอยตกทางคู่ขนานลอยฟ้าดิ่งพื้น ปิกอัพกระแทกซ้ำดับคาที่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.ค. ร.ต.อ.บัญญัติ ชนะสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน ได้รับแจ้งมีผู้ตกจากสะพานคู่ขนานลอยฟ้า ลงมาถูกรถประชาชนเสียชีวิต บริเวณตอหม้อที่ 160 ถนนบรมราชชนนีขาเข้า แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.คู่ขนานลอยฟ้า แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางเดินรถฝั่งซ้ายสุดช่วงใต้สะพานคู่ขนานลอยฟ้า เจ้าหน้าที่พบศพ นายสุ่ยจ่า พะเลนอย อายุ 43 ปี ชาว อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลแตกที่กะโหลกศีรษะ กระดูกแขนและขาหักผิดรูป จึงมอบร่างให้หน่วยกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ทำการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะคู่กรณียี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน ฒบ 2737 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพฝากระโปรงและกันชนด้านหน้ายุบจากแรงกระแทก

จากการสอบสวน นายพงษ์วรุฒ จันทนา อายุ 25 ปี ผู้ขับขี่ ให้การว่า ตนขับรถกระบะดังกล่าวจากโรงงานย่าน จ.ปทุมธานี เพื่อไปส่งอะไหล่รถยนต์ให้ลูกค้าย่านพุทธมณฑลสาย 2 ระหว่างกำลังเดินทางกลับพอถึงจุดเกิดเหตุร่างผู้ตายก็ลอยละลิ่วลงมาจากสะพานคู่ขนานลอยฟ้า ซึ่งมีความสูงจากพื้นถนนด้านล่างประมาณ 15 เมตร ตกกระแทกลงด้านหน้ารถตนพอดี แม้ตนจะพยายามห้ามล้อแล้วแต่เอารถไม่อยู่เนื่องจากเหตุการณ์เกิดกระชั้นชิดมากเลยจริงๆ จากนั้นตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ

ด้าน ร.ต.อ.บัญญัติ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ตนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คู่ขนานลอยฟ้า ว่า ผู้ตายได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศอ 7084 กรุงเทพมหานคร ขึ้นสะพานคู่ขนานลอยฟ้า จากย่านพุทธมณฑลสาย 3 กำลังมุ่งหน้าเข้าเมือง จากนั้นรถผู้ตายได้เกิดความเสียหายระบบเครื่องยนต์ จึงจอดรถชิดริมถนนฝั่งซ้ายบนสะพานเพื่อลงมาเปิดกระโปรงรถตรวจสอบบริเวณหม้อน้ำ จากนั้นได้มีคู่กรณี ชื่อ น.ส.สุชาดา เสนนอก อายุ 34 ปี ขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 กก 311 กรุงเทพมหานคร ซึ่งแล่นตามหลังมาแล้วมองไม่เห็นจึงชนท้ายรถผู้ตายอย่างจัง

“ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคู่กรณีชื่อ นายนพรัตน์ ชัยพิชิตพันธ์ อายุ 47 ปี ขับรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ถก 7692 กรุงเทพมหานคร ซึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนท้าย รถของ น.ส.สุชาดา ต่ออีกทอดหนึ่ง เป็นเหตุให้ ผู้ตายซึ่งยืนซ่อมรถอยู่ริมถนนบนสะพาน ถูกแรงอัดลอยละลิ่วลงมาจากสะพานคู่ขนานลอยฟ้า ตกลงมาใส่รถคู่กรณีที่แล่นผ่านมาด้านล่าง โดยขณะนี้ตนยังไม่แจ้งข้อหากับผู้ใด เนื่องจากต้องประสานงานกับพนักงานสอบสวน สน.คู่ขนานลอยฟ้า ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บนสะพานคู่ขนานลอยฟ้า เสียก่อน” ร.ต.อ.บัญญัติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาต่อมาได้มีญาติของ นายสุ่ยจ่า โทรศัพท์เข้ามายังมือถือของผู้ตายที่อยู่ภายในรถ เล่าว่า นายสุ่ยจ่า เป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีพื้นเพอยู่ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เคยไปเป็นลูกจ้างตามโรงงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้สักระยะขณะนี้กำลังว่างงาน จึงมาพักอาศัยอยู่กับญาติๆ ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนเกิดเหตุ นายสุ่ยจ่า ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากที่พักไปทำธุระหาเพื่อนย่าน จ.นครปฐม ระหว่างทางขากลับรถคงเกิดความร้อนขึ้น จึงตัดสินใจจอดเปิดฝากระโปรงจะเติมน้ำในหม้อน้ำ แต่ไม่ทันระวังรถคู่กรณีที่แล่นตามมาด้านหลังทำให้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้นดังกล่าว

ที่มา khoasod