ยังกินอะไรได้บ้าง?! สุ่มตรวจเนื้อไก่-ตับไก่สดพบยาปฎิชีวนะตกค้างอื้อ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ยังกินอะไรได้บ้าง?! สุ่มตรวจเนื้อไก่-ตับไก่สดพบยาปฎิชีวนะตกค้างอื้อ
วันที่ 19 กรกฎาคม นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิผู้บริโภค (มพบ.) ร่วมกับเครือข่ายผู้บริโภคกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการแถลงข่าว “ผลการตกค้างจากยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ในเนื้อไกลและตับไก่สด” โดยมี น.ส.สารี อ๋องสมหวังเลขาธิการมุลนิธิเพื่อผู้บริโภค และบรรณธิการนิตยสารฉลากซื้อ ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) และตัวแทนจากเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกรุงเทพฯ ร่วมกันแถลงข่าว
ผลการทดสอบสารตกค้างจากยาปฏิชีวนะในเนื้ออกไก่และตับไก่สด โดยสุ่มเก็บตัวอย่างจากห้างสรรพสินค้า ตลาดสด และห้างออนไลน์ พบการตกค้างของยาปฏิชีวนะ 26 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 41.93 // พบตกมาตรฐานการใช้ยาปฏิชีวนะ จำนวน 5 ตัวอย่าง ในยาเอนโรฟลอคซาซิน เนื่องจากเป็นยานอกเหนือบัญชีแนบท้ายประกาศ ซึ่ง อย. อนุญาตให้ใช้ยานี้ได้แต่ต้องไม่พบการตกค้างของยานี้ โดยมีความผิดตามมาตรา 60 โทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ของพรบ.อาหาร พ.ศ.2522 ส่วนของยาด็อกซีไซคลิน พบ 21 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 33.87 ส่วนอีก 36 ตัวอย่างไม่พบยาปฏิชีวนะทั้งสามกลุ่ม
ขณะที่ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) บอกว่า ยาปฏิชีวนะที่ใช้ในสัตว์ มีอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์คือ การดื้อยา แพ้ยา และอาการไม่พึ่งประสงค์ โดย อันตรายจากยากลุ่มแรก ด็อกซีไซคลิน จะทำให้ฟันมีสีคล้ำ สามารถพบเห็นในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ / มีอาการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร และมีผื่นคันบริเวณผิวหนัง.
กลุ่ม 2 อันตรายจาก เอนโรฟลอคซาซิน จะทำให้มีอาการอาเจียน ท้องเสียในบางรายที่ใช้ยาตัวนี้สูงกว่าบนาดที่แนะนำ 10 เท่า ทำให้กระดูกอ่อนตามข้อต่างๆเกิดความเสียหายจากผลของยา
กลุ่ม 3 อะม็อกซีซิลลิน จะทำให้เกิดผื่นคัน ลมพิษ มีอาการหอบหื่น
นอกจากนี้ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเสนอว่า ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาต้องปรับปรุงมาตรฐานการตกค้างให้ยอมรับได้น้อยที่สุด และต้องเข้มงวดและติดตามการใช้ยาปฏิชีวนะไม่ให้ตกค้างเกินกำหนดเพราะ ส่วนมากตอนนี่ยังมีฟาร์มเลี้ยงไก่ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อเร่งการเจริญเติบโต และ รักษาโรคของไก่ในปริมาณที่มาก ส่วนที่นำไปประกอบอาหารแล้วจะส่งผลต่อผู้บริโภคหรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ที่มา nationtv
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น