ลีน่าจัง บุกกองปราบ แจ้งความโค้ชเอก ลั่น พ่อแม่หมูป่าต้องชดใช้?!

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นางลีน่า จังจรรจา เดินทางไปกองบังคับการปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอล กรณีนำเด็กและเยาวชนเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงรายแล้ว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ หลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยืนยันว่า กลุ่มเด็กๆเข้าไปโดยไม่ได้ขออนุญาต

นางลีน่า กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคำให้สัมภาษณ์ของนายเอกพล หรือโค้ชเอก ในรายการเดินหน้าประเทศไทย ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เปิดเผยว่า ในขณะที่ทีมหมูป่ายังติดอยู่ในถ้ำก็ได้ใช้ก้อนหินเป็นอุปกรณ์ในการขุดเจาะผนังถ้ำเพื่อหาทางออก นอกจากนี้ ยังได้บุกรุกเข้าไปในถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน และยังมีการนำรถจักรยานเข้าไปจอดภายไว้ภายในถ้ำ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวตนเห็นว่า กระทำความผิดหลายข้อหา ซึ่งบางข้อหาก็มีโทษจำคุกด้วย

ทั้งนี้ถึงว่าตนเองจะไม่ได้เป็นผู้เสียหาย แต่ความผิดดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดิน จึงเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินคดี จะละเว้นไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเด็กเป็นอภิสิทธิ์ชน หรือเด็กเทวดา ส่วนเด็กที่อายุยังไม่ถึง 14 ปี ก็ไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย แต่ผู้ที่อายุเกินก็จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนทางพ่อ-แม่ของเด็กก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่แผ่นดินตามที่กฎหมายอีกด้วย

นางลีน่า ระบุว่า อยากให้ดำเนินคดีเพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ตนถูกกรมอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีที่เข้าไปเที่ยวถ้ำพระยานคร ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งที่มีการซื้อบัตรเข้าชมอย่างถูกต้อง ซึ่งมีการแจ้งข้อหาว่า ไม่มีการขออนุญาตถ่ายทำ ประกอบกับมีการส่งเสียงดัง

นางลีน่า ชี้แจงว่า สาเหตุที่เข้าไปในถ้ำพระยานคร เนื่องจากได้รับการประสานจากชาวบ้าน ว่าการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวซบเซา จึงอยากไปช่วยโปรโมทการท่องเที่ยว และเมื่อไปถึงก็พบกลุ่มเด็กที่มากับครอบครัวที่บอกว่าอยากว่าอยากดัง จึงชวนให้มีการเต้นและร้องเพลงและนำคลิปเผยแพร่ แต่ไม่ได้มีเจตนาล้อเลียนทีมหมูป่า เนื่องจากไม่ได้มีการพูดถึงชื่อบุคคลใด

ที่มา posttoday, khaosod