ขณะที่นายนพรัตน์ กันทะวงค์ หรือโค้ชนก โค้ชทีมฟุตบอลทีน ทอล์ค (หมูป่า) อะคาเดมี เปิดใจถึงทีมหมูป่าว่า ได้รวมตัวกันประมาณ 3 ปีแล้ว แต่มาใช้ชื่อทีมหมูป่าได้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อตามสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน ซึ่งทีมหมูป่าเริ่มจากลูกหลานของตนรวมตัวกันฝึกซ้อมฟุตบอล และการชวนเพื่อนมาเล่นด้วย จนมีสมาชิกเยอะขึ้น ตนชื่นชอบกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว แม้อายุมากแล้ว แต่ยังอยากทำในสิ่งที่รัก อยากให้โอกาสเด็กๆ ในพื้นที่ที่ขาดโอกาส เด็กส่วนมากเป็นเด็กชาติพันธุ์ เด็กบัตรหัวศูนย์และเด็กขาดโอกาส ให้ได้เรียนรู้ทักษะฟุตบอลที่ถูกต้องตามที่ตนได้ไปอบรมมา โดยสอนให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย มีสมาชิกในทีมประมาณ 4 รุ่น คือรุ่น 11-13 ปี รุ่นไม่เกิน 15 ปี รุ่น 17 ปี และรุ่น 19 ปี ประมาณ 70 คน
หัวหน้าโค้ช เผยแชทในไลน์กลุ่ม! พร้อมเปิดประวัติ ‘ทีมหมูป่า’ ดีกรีไม่ธรรมดา
"ปกติการฝึกซ้อมฟุตบอลเด็กจะไม่มาที่ถ้ำแห่งนี้อยู่แล้ว เนื่องจากตนไม่อนุญาตให้เด็กออกนอกเส้นทางหลังการซ้อม นอกเสียจากจะขออนุญาตผู้ปกครองที่จะออกไปกินข้าวบ้างเท่านั้น ครั้งนี้ทางผู้ช่วยโค้ชไม่ได้แจ้งมาให้ตนได้รับทราบว่าจะมาเที่ยวถ้ำหลวงต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในฐานะหัวหน้าทีมฝึกสอนครั้งนี้จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของตนที่ไม่รัดกุมในการควบคุมน้องๆ มาซ้อมในพื้นที่ไกลถึง 7 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีวี่แววว่าเด็กจะกล้าขัดคำสั่งหรือกล้าทำอะไรกันแบบนี้ แต่อาจด้วยเด็กวัยกำลังซนอยากรู้อยากเห็น เพราะเท่ามีหลักฐานทราบว่าพวกเขาเคยเข้าไปลึกในถ้ำถึง 2 กิโลเมตรมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้น่าจะมีการเตรียมการมาเหมือนกัน" นายนพรัตน์กล่าว
" ปกติวันธรรมดาทางทีมจะซ้อมกันที่สนามกีฬากลางแม่สาย หรือที่รู้กันในชื่อสนาม มปส. ส่วนที่มีการโพสต์ในออนไลน์ว่า การเข้ามาในถ้ำเป็นส่วนหนึ่งในการซ้อมฟุตบอล ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน นอกจากการซ้อมฟุตบอล สัมผัสลูกฟุตบอล การสัมผัสพื้นหญ้า คือการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และฟิตเนสเท่านั้น ไม่มีการนำมาซ้อมในถ้ำแน่นอน เชื่อว่าทีมไหนก็คงไม่มีเช่นกัน นอกจากว่าแข่งขันเสร็จจะพามารีแล็กซ์ นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่คนในพื้นที่รู้ดีว่าหน้าฝนไม่มีใครมาถ้ำหลวง" นายนพรัตน์กล่าวปิดท้าย