เร่งค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชน 13 คน สูญหายถ้ำหลวงยังไร้วี่แวว

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่านักเรียนทีมฟุตบอล "หมูป่า" จากตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมโค้ชรวม 13 คน ได้หายเข้าไปในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ซึ่งห่างจากสนามซ้อมฟุตบอล ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยรถจักรยาน 11 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และกระเป๋าสัมภาระของเด็กๆ วางอยู่หน้าปากถ้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ พร้อมหน่วยกู้ภัย และนักประดาน้ำ เร่งเข้าค้นหา ซึ่งพบว่าในถ้ำมีลำธารไหลขนานออกมา เบื้องต้นพบรองเท้าเด็กที่ถอดทิ้งไว้ 12 คู่ และพบกระเป๋าลอยน้ำออกมา 3 ใบ ขณะที่ระหว่างค้นหาเกิดฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังออกมาในช่วง 03.00 น.

ล่าสุดวันนี้มีผู้ปกครองได้เข้ามาแจ้งเพิ่มเติมว่าลูกชายวัย 13 ปี ได้หายไปพร้อมกับกลุ่มนักฟุตบอลด้วย จึงทำให้มียอดผู้สูญหายทั้งหมดเป็น 13 คน ประกอบด้วย นายเอกพล จันทรวงค์ อายุ 25 ปี โค้ชทีมฟุตบอล และเด็กๆ อายุตั้งแต่ 11 - 16 ปี รวมอีก 12 คน

ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าไปค้นหาผู้สูญหายภายในถ้ำลึกประมาณ 3 - 4 กิโลเมตร แต่ยังไร้วี่แววของเด็กๆ พบเพียงรองเท้า กระป๋องน้ำ กระเป๋าสัมภาระที่วางไว้หน้าโพรงขนาดใหญ่ภายในถ้ำลึกประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งด้านข้างเป็นโพรงมีน้ำท่วมปากถ้ำ แต่จากข้อมูลการสำรวจก่อนหน้านี้พบว่าด้านบนโพรงมีความสูง น้ำอาจท่วมไม่ถึงทำให้คาดว่ากลุ่มนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชอาจจะอยู่ภายในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำเครื่องสูบน้ำเข้าไปเพื่อสูบน้ำบริเวณปากถ้ำออก โดยคาดว่าจะใช้เวลาเข้าไปดำเนินการอีกหลายชั่วโมง

สำหรับการค้นหาครั้งนี้มีอุปสรรค คือ ในถ้ำมีน้ำไหลออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจเพิ่มระดับขึ้นหากฝนตกและปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสาร เพราะยิ่งเข้าไปลึกสัญญาณการติดต่อก็จะหายไป ทำให้ต้องส่งทีมต่อไป เข้าไปค้นหาทีมก่อนหน้านี้ เพิ่มเติมอีก แต่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยยังคงหมุนเวียนเข้าไปเร่งค้นหาผู้สูญหายตลอดทั้งวันที่ผ่านมา

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังคงอำนวยการการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน พร้อมโคชรวม 13 คน ที่ลงไปในถ้ำหลวง ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย และเกิดน้ำป่าไหลหลาก จรนออกมาไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงออกค้นหากันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบ โดยพ่อ แม่รอลุ้นอยู่นอกถ้ำ โดยเชื่อว่าทุกคนปลอดภัย

หลังจากทีมช่วยเหลือเดินเข้าไปในถ้ำเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จะพบห้องโถงความกว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร ถูกน้ำท่วมสูง ลึกประมาณ 3 เมตร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่ทำให้ทั้ง 13 ชีวิต ออกมาจากถ้ำไม่ได้ เดิมทีมีการวางแผนสูบน้ำออก แต่หลังจากสูบไปนานกว่า 5 ชั่วโมง ระดับน้ำก็ไม่มีท่าทีว่าจะลด และควันเครื่องสูบน้ำเริ่มทำให้การหายใจมีปัญหา และมีน้ำไหลมาสมทบจากบ้านผาหมี จึงเห็นควรยกเลิกแผนการสูบน้ำ

โดยทีมช่วยเหลือได้เปลี่ยนแผน มาใช้นักประดาน้ำ ดำน้ำลงไปในจุดดังกล่าว เพื่อหาวิธีเดินทางต่อเข้าไป ค้นหาคนที่อยู่ในถ้ำ โดยมีทีมงานชุดประดาน้ำ ชุดเดินสายไฟ จำนวน 32 คน มาทำการติดตั้งระบบไฟ เพื่อให้สามารถส่องสว่างได้อย่างเต็มที่ในจุดที่นักประดาน้ำจะดำน้ำลงไป ซึ่งหากว่าผู้ที่อยู่ในถ้ำได้เห็นแสงไฟก็น่าจะออกมาหาแสงไฟ ซึ่งนักประดาน้ำก็จะได้นำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปให้ได้ และทางโรงพยาบาลแม่สาย ทีมแพทย์ไว้ช่วยเหลอืด้วย

ทั้งนี้ชุดทำงานมีทั้งหมด 7 ชุด ซึ่งชุดปฏิบัติการก็ได้เข้าไปภายในถ้ำ และทยอยกลับออกมาโดยไร้วี่แววกลุ่มผู้สูญหาย เนื่องจากภายในถ้ำมีอากาศให้หายใจน้อยมาก ชุดทำงานมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และยังไม่ยืนยันถึงสถานการณ์ ซึ่งเด็ก ๆ อาจปลอดภัยก็ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จนกว่าจะมีคำตอบ และได้ขอความร่วมมือจากผู้ใหญ่บ้าน ลูกบ้าน และเจ้าหนาที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ช่วยกันปิดกั้นทางน้ำที่จะไหลเข้าสู่ในบริเวณถ้ำ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา

ขอบคุณ ch7.com