ชายหาดบางแสนซึ่ง ตั้งแต่ มี.ค.-ต.ค. ก็จะมีปัญหาขยะเข้าเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ มิ.ย.-ส.ค. จะหนักหนาที่สุดเพราะลมแรง คลื่นแรง ก็จะพัดเอาขยะจากที่กล่าวแล้วมาเกยตื้นที่นี่ สภาพเลยเป็นแบบที่เห็นครับ นอกจากนี้ขยะจากการท่องเที่ยวอีก ที่นักท่องเที่ยวส่วนมาก เอาขยะมาแต่ผมมั่นใจว่าไม่ถึง 15-20% ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาบางแสนที่จะมีจิตสำนึกในการทิ้งขยะหรือช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเห็นได้ชัดเจนจากพฤติกรรมที่ทำกันจนชิน การศึกษาแทบไม่ได้ช่วยอะไรกับคนกลุ่มนี้มากนัก คนไทยเรายังขาดจิตสำนึกในเรื่องการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม การมีจิตอาสา การมีจิตสาธารณะ และ ที่สำคัญคือการรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งทุกครั้งก็ได้แต่ตำหนิคนอื่นแต่ไม่เคยรับรู้ถึงสาเหตุใดๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ได้แต่เอาไปโพสต์ หรือ เอาไปด่า ต่อว่า ต่างๆนาๆ เช่นเรื่องขยะที่ท่านเห็นประจำ
นอกจากนี้ ขยะทะเลยังทพให้สัตว์ทะเลเช่น วาฬ, เต่า ที่ตายเป็นจำนวนมากเพราะกินพลาสติกเข้าไป เพราะนึกว่าเป็นอาหาร ที่บางแสนก็มี วาฬบลูด้า มาตายอยู่ หลายตัวแล้ว ซึ่งอาจเพราะการกินพลาสติกและ/หรือ โดนใบพัดเรือ หรือ โดนอวนลาก รวมถึงก็ยังพบซากโลมา และเต่ามาเกยตื้นอยู่เนืองๆด้วยครับ
งานนี้เทศบาล จะดำเนินการตามหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดและพยายามทำให้รวดเร็วที่สุดในการเก็บขยะ เพื่อที่จะให้หาดบางแสนพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและประชาชนต่อไป เราเพียงแต่อยากขอความเข้าใจความเห็นใจว่า ขยะที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเรา เราเป็นเพียงผู้ได้รับผลกระทบจากความไร้สำนึกของคนทั้งหลายที่ทิ้งขยะ แต่เราก็จะไม่ท้อก็จะก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเราต่อไปให้ดีที่สุดและหวังเล็กๆว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นปัญหา(ระดับชาติ)และนำไปแก้ไขปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมต่อไป ครับ
ส่วนหน่วยงานไหนที่รับผิดชอบ ก็คงไม่ต้องให้ผมบอก ช่วยมารวมตัว คุยกันและหาทางออกครับ (ซึ่งไม่อยากคาดหวังแล้ว) เมืองไทยของเรา ทำอะไรๆก็ยาก หน่วยงานแต่ละหน่วยมีเหตุผลของตัวเองที่จะไม่ทำหรือทำไม่ได้เสมอ คิดว่าทุกคนคงพอมองภาพออก การบูรณาการที่แท้จริงเกิดขึ้นยากมากจริงๆแต่ไม่ได้หมายความว่า เป็นไปไม่ได้นะครับ แต่ใครล่ะจะเป็นผู้เริ่ม? เทศบาลแสนสุข? ฮ่าๆๆ ท้องถิ่นอย่างผม อำนาจน้อยนิด งบก็คงไม่พอ แต่ที่สำคัญอำนาจหน้าที่ของเราก็คงได้แค่ก้มหน้าก้มตาเก็บขยะที่ปลายเหตุเช่นเดิม ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ