ลือระดับบิ๊กสั่งรูดซิปปาก ห้ามให้ข่าวรร.ขนมจีนคลุกน้ำปลา

จากกรณีเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี มีอาหารกลางวันเป็นเพียงเส้นขนมจีนเปล่าคลุกกับน้ำปลาเท่านั้น จนมีการย้ายผอ.โรงเรียนพร้อมตั้งกรรมการสอบสวน ภายหลังผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อไปตรวจสอบอีกครั้งพบว่าอาหารกลางวันเด็ก มีมาตรฐานดีขึ้นทันตาเห็นตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายผู้ปกครองแจ้งกับทีมข่าวว่า ภายหลังจากที่มีคณะกรรมการเข้าพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงและเรียกครู เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนไปสอบถามปากคำแต่ยังมีข่าวเสนออกมาทางสื่ออย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดมีการพูดต่อๆกันว่าทางผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ขอไม่ให้ผู้ปกครองและครูหรือเจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องให้ข่าวความเคลื่อนไหวกับสื่อมวลชน โดยอ้างว่าทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงและเกิดความวุ่นวาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็กลัวความผิดส่วนชาวบ้านที่เป็นเครือข่ายผู้ปกครองที่ร่วมกันเปิดโปงความจริงออกสู่สังคม ก็เริ่มกลัวจะมีความผิดหรือถูกฟ้องร้องตามมา หลังมีข่าวว่าผู้บริหารระดับสูงห้ามมิให้มีการเคลื่อนไหวหรือแจ้งเบาะแสให้บุคคลภายนอกทราบ
 
ด้าน นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ  พร้อมกับให้กำลังใจข้าราชการครู รวมถึงผู้ปกครองที่ร่วมกันแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมได้ให้นโยบายไปว่า จะต้องมีการตรวจสอบข้อร้องเรียนของผู้ปกครองทั้ง 10 ข้อให้ได้รายละเอียดมากที่สุด และให้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งวันนี้รับรายงานจากรองผู้อำนวยการเขต สพป.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นประธานกรรมการฯ ว่าการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องคืบหน้าไปมากแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมตักอาหารกลางวันแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ ซึ่งในวันนี้ทางโรงเรียนได้จัดเมนูผัดกะเพราหมู -ถั่วฟักยาว ไข่ดาวและมีเฉาก๊วยทับทิมกรอบเป็นขนมหวาน ซึ่งปรากฏว่าเป็นที่ถูกปากถูกใจของเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก เด็กๆต่างบอกกับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้กินอาหารที่เป็นกับข้าว2 อย่างมานานมาก และอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป

ขณะที่แม่ครัวผู้ประกอบอาหาร ได้แจ้งให้ทราบว่าสำหรับเมนูวันนี้ ใช้หมูบดจำนวน 15 กก.จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับเพียง 4-5 กก.เท่านั้น ส่วนไข่ดาว ใช้ไข่ 300 ฟองการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ ทำให้การจัดเมนูอาหารง่ายขึ้นมีวัตถุดิบที่เพียงพอต่อการปรุงอาหารให้กับเด็กที่มีร่วม300 คน ได้อย่างง่ายดาย  นอกจากนี้เครือข่ายผู้ปกครอง กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกมีกำลังใจที่ท่านผู้ว่าฯเดินทางมาตรวจเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ และให้ความมั่นใจว่าจะให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย โดยท่านยืนยันว่าหากมีการข่มขู่หรือ ไม่ได้รับความเป็นธรรมขอให้แจ้งได้โดยตรงกับท่าน 

 

ส่วนที่โรงเรียนบ้านโพหวาย ต.บางกุ้ง  อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายสุมนต์ ศิริธรรม รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 1พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เข้าสุ่มตรวจการจัดอาหารกลางวัน โดยการเข้าสุ่มตรวจครั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับนักเรียน และตรวจสอบเมนูอาหารย้อนหลังซึ่งไม่ปรากฏความผิดปกติมีเพียงข้อบกพร่องที่ทางโรงเรียนไม่ได้แสดงรายการอาหารให้นักเรียนหรือผู้ปกครองทราบเท่านั้น จึงได้สั่งการให้มีการแก้ไข  นายวีระพงค์ ไชยามาตย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพหวาย กล่าวว่ามีนักเรียนทั้งสิ้น 559 คน เป็นนักเรียนระดับอนุบาลถึง ป.6 จำนวน 294 คนและเป็นนักเรียนขยายโอกาสระดับ ม.ต้นจำนวน 173 คน ในการจัดสรรงบประมาณโครงการอาหารกลางวัน จัดอาหารให้เด็กทุกคนโดยเรียกเก็บจาก ชั้น ม.ต้น คนละ 15 บาท ต่อวัน สำหรับเมนูที่จัดให้เด็กในวันนี้เป็นพัดกระเพราหมู แกงจืดไก่กับฟักเขียวและ ผลไม้เงาะโรงเรียน ซึ่งแม่ครัวได้จัดซื้อวัตถุดิบ ประกอบด้วยหมูสับ 35 กก. ไก่25 กก.เลือดไก่ 30 กก. และฟักเขียว 20 กก. เงาะ 50  กก.ซึ่งอาหารที่ผลิตได้เพียงพอกับความต้องการของนักเรียน ...

Cr:::dailynews.co.th