“บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง “สันธนะ” ลั่นยังเรียก “พี่” เชื่อโยงปมจับโต๊ดเถื่อนสนามม้า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ “บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง “สันธนะ” ลั่นยังเรียก “พี่” เชื่อโยงปมจับโต๊ดเถื่อนสนามม้า
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยืนยันว่า การดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล และที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งและไม่มีเรื่องส่วนตัว เพราะไม่มีอะไรกันมาก่อน และขณะนี้ยังเรียก "พี่" แต่อาจมีเรื่องการที่ตนไปจับ "โต๊ดเถื่อน" แต่ยืนยันไม่ว่าใครก็จับทั้งนั้น
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนไม่ได้มองเรื่องของ พ.ต.ท.สันธนะ เป็นประเด็นหลัก แต่จะทำอย่างไรให้ตลาดใหม่ดอนเมืองแข็งแรง เช่น รายได้ต้องเข้ารัฐครบถ้วน ได้จากการเช่าที่ดินก็จะต้องเข้ากรมธนารักษ์ การเสียภาษีต้องถูกต้อง พ่อค้าและแม่ค้าต้องขายสินค้าที่ถูกต้องและมีอ.ย. ดังนั้นเมื่อออกจากตลาดนี้ไป ตลาดจะต้องมีความสมบูรณ์ ไม่มีการต่อเติมอาคาร ที่สำคัญจะต้องไม่มีการบุกรุกคลองเปรมประชากร ดังนั้นการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น โดยสำนักงานเขตดอนเมืองจะต้องปิดประกาศให้ครบเมื่ออาคารได้ต่อเติมผิดก็จะต้องมีการรื้อถอนภายใน 30 วัน ถ้ารื้อถอนไม่ทันเวลาก็จะต้องเลื่อนเวลาออกไป ส่วนที่บุกรุกคลองเปรมประชากรจะต้องทุบทิ้งทั้งหมด ส่วนค่าเช่าที่ราคาสูงนั้น ทางอธิบดีกรมธนารักษ์ก็จะต้องมาดูว่าถูกต้องหรือไม่ ราคาสูงกว่าความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าจะใช้ระยะเวลาอีกเพียงประมาณ 2 สัปดาห์ก็จะเสร็จสิ้น ถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดี โดยจะต้องมีผู้เสียหายมาทำการฟ้องร้อง
เมื่อถามว่า ตำรวจมอง พ.ต.ท.สันธนะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองเป็นผู้มีอิทธิพลเลย เพราะวันนี้เรามองว่าไม่มีผู้มีอิทธิพล แต่เป็นเพียงการกระทำความผิดเฉพาะกลุ่มหรือบุคคลเท่านั้น มาเฟียก็ไม่มี เราไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงส่วนนี้ส่วนเดียว ซึ่งเราจะต้องดูทุกส่วนให้ครบถ้วน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อถึงกรณีที่ตำรวจออกหมายเรียก พ.ต.อ.สมชาย ประยูรรัตน์ วัย 91 ปี บิดา พ.ต.ท.สันธนะ ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหา ว่า ตนได้สอบถามไปยังผู้กำกับสน.โชคชัยแล้ว เป็นเพียงการตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งหลังจากการตรวจสอบพบว่าไม่เข้าข่ายการกระทำผิดก็ไม่มีอะไรจึงไม่มีการดำเนินคดีใดใดทั้งสิ้น ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนที่ภรรยา พ.ต.ท.สันธนะ ไปยื่นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนนั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิสามารถทำได้ ซึ่งตนพร้อมให้ตรวจสอบทุกส่วนอยู่แล้ว ว่าเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างไรบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นบุคคลสาธารณะ เมื่อเราทำหน้าที่แล้วก็ต้องพร้อมให้สังคมตรวจสอบ ถ้าทำดีหรือไม่ดีสังคมก็ต้องรับรู้
"การทำงานในครั้งนี้มีหลายหน่วยงานทำงานร่วมกันและตนเชื่อว่าไม่มีใครกล้าแตกแถว อยากให้มีการตรวจสอบเยอะๆจะได้โปร่งใส ซึ่งการจะดำเนินคดีใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิทธิและเสรีภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการจะไปดำเนินคดีกับใครนั้นจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนและตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว
ที่มา : dailynews, posttoday
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น