ผลการสำรวจพบว่าบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข ในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร มีราคาที่ดินสูงสุดที่ 450,000 บาท แต่ปรากฏว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ราคาเพิ่มขึ้นถึง 32% ทั้งนี้เป็นผลจากอิทธิพลของรถไฟฟ้า BTS โดยตรง เนื่องจากตลาดมีความต้องการสร้างโครงการอาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้ เมื่อสร้างแล้วก็ปรากฏว่าขายได้ดีพอสมควรทีเดียว จึงทำให้ราคาที่ดินพุ่งขึ้นอย่างเด่นชัดที่สุด
อันดับรองลงมาเพิ่มขึ้น 29% คือบริเวณถนนลาดพร้าว ตรงโรงเรียนปานะพันธ์ (เดิม) และสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว ราคาล่าสุดเป็นเงินตารางวาละ 450,000 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 29% ทั้งสองแปลง เพราะตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ย่านนี้มีโอกาสเติบโตสูงมาก เพราะนอกจากมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แล้ว ขณะนี้รถไฟฟ้า BTS ก็กำลังขยายเส้นทางไปตามถนนพหลโยธินถึงคูคต ดังนั้นศักยภาพจึงเพิ่มขึ้นมาก ที่เพิ่มขึ้น 25% มีอีก 11 บริเวณ
ล้วนแต่เป็นบริเวณที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT แทบทั้งสิ้น ยกเว้นแถวศรีนครินทร์-บางนา ที่มีผลจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ถนนวิทยุที่มีผลจากการขายสถานทูตอังกฤตที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา ถนนพระรามที่ 4 (กล้วยน้ำไท) ที่มีการนิยมสร้างห้องชุดพักอาศัยมากขึ้น และถนนเพชรเกษม-ภาษีเจริญ จากการมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั่นเอง
การที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงเช่นนี้ หากมีการเก็บภาษีที่สมควร ก็จะช่วยพัฒนาประเทศได้มาก
1. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ควรเก็บต่อปีประมาณ 1-2% ของมูลค่าโดยเฉพาะในกรณีที่ดินเปล่า
2. ภาษีมรดก ที่ไม่ควรมีขั้นต่ำ 100 ล้านบาท
3. ภาษีกำไรจากการขาย เช่น ซื้อมา 100 ขายไป 200 ได้กำไร 100 ส่วนกำไร ควรเสียภาษี 20% เป็นต้น
การเสียภาษีที่สมควร จะทำให้ช่องว่างทางชนชั้นลดลง สังคมมีเงินมาพัฒนาท้องถิ่นมากขึ้น ชุมชนมีความสุข เมืองน่าอยู่มากขึ้น