ขณะที่ นายวุฒิศักดิ์ ให้การว่า ตนอยู่กินกับนางสุนทรา แจ่มแจ้ง ได้ประมาณ 2 ปี โดยที่นางสุนทรามีลูกติดมาด้วยคือ ด.ญ.น้อย โดยช่วงเกิดเหตุ ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ค. ตนอยู่บ้านกับ ด.ญ.น้อย เพียงลำพังโดยที่ ด.ญ.น้อย ได้ฉี่ใส่เสื้อผ้าและที่นอน ซึ่งตนได้บอกให้เด็กไปฉี่ในห้องน้ำแต่ด.ญ.น้อย ไม่ทำตามที่บอกหลายครั้ง ตนจึงรู้สึกโมโห บันดาลโทสะด้วยการใช้มือทุบตีหลายหน แต่ ด.ญ.น้อยก็ยังฉี่ใส่เสื้อผ้าและที่นอนอีก ด้วยความโมโหตนจึงได้ทุบตีลูกเลี้ยงอีกหลายครั้ง เป็นเวลา2 วันติดต่อกัน ส่วนแม่ของเด็กได้ออกไปทำงาน
นายวุฒิศักดิ์ ให้การต่อว่า กระทั่ง วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ลูกเลี้ยงมีอาการไข้สูงและไอ ตนจึงออกไปหาซื้อยามาให้กิน แต่ด.ญ.น้อยมีอาการคล้ายเป็นลมหมดสติ จึงรีบนำตังส่งรพ.ก่อนที่ด.ญ.น้อย จะเสียชีวิตเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุตนได้ติดต่อนางสุนทรา ด้วยความกลัวและสำนึกผิดจึงติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ตนไม่ได้ตั้งใจตีลูกเลี้ยงแต่พลั้งมือทุบตีด้วยความโมโหและขอโทษภรรยารวมถึงญาติๆด้วย ตนยังรักด.ญ.น้อยเหมือนลูกแท้ๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้ขึ้นและอยากจะขอโทษสังคมที่ตนเองทำร้ายลูกเลี้ยงถึงเสียชีวิตในครั้งนี้ยอมรับผิดทุกอย่างวอนให้ทุกคนเห็นใจและเข้าใจ
ส่วนศพของ ด.ญ.น้อยนั้น นางสุนทราได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดแก่งสีเสียด ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเย็นของวันก่อน (5 พ.ค.) โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ มีญาติๆมาร่วมรดน้ำศพอย่างเรียบง่าย ทั้งนี้ นางสุนทรา ได้กล่าวว่า ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดไม่คิดว่านายวุฒิศักดิ์จะกล้าตีลูกจนถึงเสียชีวิต จะไม่ยอมความใดๆทั้งสิ้น ส่วน นายไพทูรย์ นึกแม่น พ่อแท้ๆ ด.ญ.น้อยนัด กล่าวว่า ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายวุฒิศักดิ์ให้ถึงที่สุด
ขณะที่ พ.ต.ท.วัชรชัย เปิดเผยว่า จากการชันสูตรร่วมกับแพทย์นิติเวชพบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำภายใน ก่อนนำศพของด.ญ.น้อย ส่งชันสูตรต่อที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยแพทย์ได้ยืนยันว่าเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้ต้องหาคือพ่อเลี้ยงนั้น ให้การรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยงจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ถึงแก่ความความตาย ก่อนดำเนินคดีต่อไป