ห้องฉุกเฉินปิดทำเด็กตาย
ล่าสุด (5 พฤษภาคม 2561) เดลินิวส์ออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง น.ส.สุพรรศา อายุ 30 ปี แม่ของเด็กที่เสียชีวิต เผยว่า 2 วันก่อนลูกชายเกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และมีไข้สูง ตนกับสามีจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว แพทย์ได้สอบถามอาการและให้ยาหยุดถ่าย ยาลดไข้ แต่ตนอยากให้ลูกแอดมิท นอนดูอาการ เพราะตัวสั่นตลอดเวลา ซึ่งแพทย์บอกว่า เด็กยังไม่ถึงขั้นช็อกให้กลับบ้านได้
กระทั่งกลางดึกลูกตนอาการทรุด ตนพยายามเช็ดตัวลูกแต่ไม่ดีขึ้น จนช่วงเช้ามืดจึงรีบกลับไปที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่กลับเจอเจ้าหน้าที่เวรเปล แจ้งว่าแผนกฉุกเฉินปิดทำการ ตนต้องอุ้มลูกวิ่งไปอีกอาคาร และเฝ้ารอโดยไม่ได้รับการรักษาใด ๆ รุ่งเช้าเริ่มมีคนป่วยรายอื่น ๆ มา ตนจึงได้เข้าห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นลูกตาเหลือกแล้ว แพทย์ถามเด็กอาการหนักขนาดนี้ ทำไมเพิ่งพามารักษา และสุดท้ายเด็กก็เสียชีวิต
ต่อมา คณะผู้บริหารโรงพยาบาลได้เรียกตนเข้าพบ พร้อมชี้แจ้งว่า ความจริงแล้วแผนกฉุกเฉินเปิด ไม่ได้ปิดแต่อย่างใด เป็นความเข้าใจผิดของเวรเปลเพราะเพิ่งมาทำงานใหม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลจะอบรมพนักงานคนนี้ต่อไป
ทั้งนี้ ทางคณะผู้บริหารได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับตน ขอไม่ให้ตนเปิดเผยข้อมูลให้เป็นข่าว และไม่อยากให้แจ้งความ พร้อมเสนอเรื่องการเยียวยาเบื้องต้น 400,000 บาท ตามสิทธิ์บัตรทองที่เด็กมี ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการ 2 เดือน
ด้านศพลูกชาย ตนตั้งใจตั้งสวดศพ 3 วัน จากนั้นจะประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป อย่างไรก็ตามในวันนี้ (5 พฤษภาคม) ทางโรงพยาบาล ได้เชิญตนและญาติ ๆ มาร่วมรับฟังแถลงข่าว เพื่อชี้เแจงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อสื่อมวลชนอีกด้วย