โดยประกอบพิธีฝังใกล้กับหลุมศพของด.ญ.ธัญญาพร ยอดมณีบรรพต อายุ 5 ขวบ ที่ได้ประกอบพิธีฝังไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ท่ามกลางญาติมิตรกว่า 100 คน ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ และสะเทือนใจต่อการจากไปอย่างกะทันหันของ 2 แม่ลูก ครั้งนี้มีนายคำรณ ศรีโพธิ์ นายอำเภอเวียงแก่น เดินทางไปร่วมพิธีด้วย อย่างไรก็ตามพบว่า ไม่พบนายทวีศักดิ์เดินทางไปร่วมในพิธี ซึ่งก่อนหน้านี้นายทวีศักดิ์เคยแจ้งไปยังนายอำเภอว่า หลังจากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช จ.เชียงใหม่ แล้วอาจจะเดินทางกลับในวันนี้
ด้านนายจงหรือ กล่าวว่า พิธีกรรมในการฝังศพลูกสะใภ้ของตนครั้งนี้ ก็ทำเหมือนกับที่ประกอบพิธีกับลูกสาวคือ ด.ญ.ธัญญาพร หลังจากฝัง จะก่อคอนกรีตเอาไว้ด้านบน เพื่อให้ทั้งสองแม่ลูกได้อยู่เคียงข้างกันอย่างสงบสุขตลอดไป
นายคำรณ กล่าวว่า ปัจจุบันนายทวีศักดิ์ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ใน จ.เชียงใหม่ โดยได้รับแจ้งว่า อาการดีขึ้นตามลำดับ หลังจากได้ผ่าตัดเอาเศษกระสุน และเศษกระจกที่ดวงตาเสร็จแล้ว ควบคู่รักษาอาการที่ถูกยิงเข้าที่แขนด้านขวา ดังนั้นทางอำเภอจึงได้ปรับกำลังการบริหารจัดการในพื้นที่ โดยให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านห้วยหาน ขึ้นเป็นผู้ใหญ่บ้านดูแลลูกบ้านตามปกติ ส่วนการบริหารงานของกำนันนั้น ได้ให้ทางสารวัตรกำนันรักษาการในตำแหน่งไปก่อน
นายคำรณ กล่าวอีกว่า การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนนั้น ทางอำเภอได้ร่วมกับทางทหาร และตำรวจ จัดชุดสายตรวจพิเศษ แบ่งออกเป็นหลายหน่วย ออกตรวจตราตามพื้นที่ต่างๆ พร้อมจัดระบบติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพิ่มเติมอีกจำนวน 150 ตัว เพิ่มความเข้มงวดของชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านต่างๆ ให้เข้มงวดมากขึ้น ส่วนครอบครัวของกำนัน ต.ปอ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ไปดูแลจำนวน 4 นาย กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า สาเหตุที่มีเหตุการณ์ยิงถล่มกันบ่อยครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ก็เพราะพื้นที่มีความล่อแหลม โดยเป็นป่าเขา และติดประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางภูเขา และทางแม่น้ำโขง ที่ทำให้เข้าออกได้ง่าย แต่เจ้าหน้าที่ก็จะพยายามเฝ้าระวังให้ดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ด้านการคลี่คลายคดีทางชุดปฏิบัติการคลี่คลายนำโดย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 ในฐานะหัวหน้าชุด ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทยอยนำปืนที่ร่วมกับฝ่ายปกครองเรียกคืนจากผู้มีไว้ครอบครองในพื้นที่ 4 ตำบลคือ ต.ปอ ต.หล่ายงาว ต.ม่วงยาย และต.ท่าข้าม ไปตรวจสอบ นับรวมได้จำนวน 315 กระบอก และทะยอยแบ่งไปทดสอบยิงเพื่อดูลักษณะปืน ปลอก และอื่นๆ ว่าเกี่ยวข้องกับปืนที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่นั้น ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ยังคงนำปืนทั้งหมดไปยิงทดสอบที่สนามยิงปืน ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ตลอดทั้งวันโดยช่วงแรกเป็นปืนที่นำไปจาก ต.ปอ จำนวน 99 กระบอกก่อน จากนั้นจะค่อยๆ ทยอยนำจากพื้นที่อื่น ไปทดลองยิงโดยได้ร่วมกับศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 5 ตรวจหาหลักฐานต่างๆ ต่อไป