เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีตี้ สีขาว ด้านในพบศพผู้ตายเพศหญิง สวมกางเกงยีนขายาวสวมเสื้อวอร์มแขนยาว และมีถุงคลุมอยู่ที่บริเวณศรีษะ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณที่วางเท้าของเบาะด้านหลังรถ ตัวเบาะด้านหน้า ทั้งเบาะคนขับและเบาะด้านข้างคนขับ มีการปรับเอนลงมาด้านหลังเล็กน้อย สภาพศพจะนอนกับพื้นด้านหลังตะแคงขวา หันหน้าไปทางด้านหน้ารถ หัวอยู่ฝั่งคนขับ ขาเหยียดชิดกับประตูอีกฝั่ง แขนซ้ายเหยียดแนบชิดลำตัว แขนขวางอข้อศอกขึ้นมาเล็กน้อย นอกจากนี้บริเวณหัวผู้เสียชีวิตพบว่ามีถุงพลาสติก ซึ่งเป็นถุงสีขาวที่ใส่อาหารตามตลาดทั่วไป ขนาดพอดีกับศรีษะคลุมอยู่ จากนั้นเมื่อหน่วยพิสูจน์หลักฐานเก็บข้อมูลภายในรถแล้วก็มีการนำศพออกมานอกตัวรถ เพื่อตรวจพิสูจน์เบื้องต้น
จากการตรวจชันสูตรศพหลังจากนำออกมานอกรถแล้ว พบลักษณะของถุงที่คลุมศรีษะผู้ตายนั้น ไม่ได้มีการผูกมัดบริเวณปลายถุง ซึ่งเป็นส่วนของหูหิ้วลงมาต่ำกว่าคางเล็กน้อยประมาณลูกกระเดือก และถุงถูกปัดเฉียงไปอยู่ด้านหลังศรีษะเล็กน้อย บริเวณปากและจมูกของผู้ตายจะถึงถุงติดแนบชิด
นอกจากนี้จากการตรวจศพในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ตามลำตัวหรือจุดอื่นๆ ไม่พบบาดแผลที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ส่วนร่องรอยที่พบส่วนใหญ่ตามร่างกายของผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่จะเป็นร่องรอยของการตกเลือดสีม่วงคล้ำมากกว่า โดยเฉพาะบริเวณคอก็ไม่พบร่องรอยของการบีบหรือรอยถลอก ส่วนผลตรวจชันสูตรศพนั้น ต้องรอผลอย่างชัดเจนอีกครั้งจากนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลจะออกมาวันใด
ส่วนประเด็นที่ถูกตั้งไว้ว่าผู้เสียชีวิตน่าจะฆ่าตัวตาย โดยการนำถุงพลาสติกมาคลุมที่ศรีษะนั้น นพ.สุเมธ บอกว่า ตามหลักความเป็นจริงแล้ว คนเราหากอยู่ในสภาวะที่สติครบ 100% โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก ที่จะฆ่าตัวตายในลักษณะนี้ ยิ่งกรณีนี้ที่ถุงไม่ได้มีการผูกมัดปม เพราะร่างกายคนเราจะมีกลไกในการเอาตัวรอดอยู่แล้ว ฉะนั้น ถ้าคนๆ นั้นมีสติ สัมปชัญญะครบถ้วน โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก ที่จะนำถุงมาคลุมที่ศรีษะตัวเองจนเสียชีวิต เว้นเสียจากว่าคนนั้นจะมีอาการเซื่องซึม หรือมีอาการอย่างอื่นที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ส่วนกรณีที่ผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุได้แวะซื้อยาไทลินอล ที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน แล้วอาจกินยาเกินขนาดจนเป็นเหตุให้ขับรถเร็วตามภาพจากกล้องวงจรปิด เนื่องจากอาจมีอาการเบลอยาได้หรือไม่นั้น นพ.สุเมธ บอกกับทีมข่าวว่า มีส่วนผสมของตัวยาพาราเซตามอล อยู่ขนาด 500 มิลลิกรัม โดยทั่วไปยาชนิดนี้ มักจะไม่ส่งผลต่อระบบประสาทไม่น่าจะทำให้เกิดอาการเซื่องซึมได้
ด้าน นางบัวทอง โสภาลุน แม่ของ น.ส.ดวงจันทร์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เล่าให้ฟังผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุ (4 เม.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ตนและสามี พร้อมด้วยลูกชายคนเล็กของ น.ส.ดวงจันทร์ ได้ขับรถยนต์คันเกิดเหตุไปรับ น.ส.ดวงจันทร์ ที่เดินทางกลับมาจาก จ.ระยอง และมาลงที่สถานีขนส่ง จ.อุบลราชธานี
หลังจากที่เจ้าตัวเดินทางไปดูรถตู้เพื่อที่จะซื้อให้น้องชายของสามี ซึ่งระหว่างทางที่ไปรับลูกกลับเข้า จ.อำนาจเจริญ ลูกสาวตนก็ให้แวะที่ ธ.ก.ส. สาขาม่วงสามสิบ เพื่อจะกดเงิน ซึ่งตนก็สังเกตเห็นว่าลูกยืนกดเงินนาน เมื่อถามลูกสาวได้ความว่า จะกดเงินไปให้ลูกค้า จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน จากนั้น น.ส.ดวงจันทร์ ก็ขับรถออกจากบ้านไปทำธุระ และตนเองก็ออกไปทำธุระนอกบ้านเช่นเดียวกัน
ผู้เป็นแม่บอกกับทีมข่าวว่า ตนเคยเห็นอยู่ว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีลูกสาวตลอด โดยที่ตนเห็นล่าสุดก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต เป็นเงินที่สามีของลูกสาวไปกู้ธนาคาร มาจำนวน 7 แสนบาท และได้โอนเข้าบัญชีของลูกสาว หลังจากที่ลูกสาวได้กดเงินออกมา แม่ก็เห็นว่าเงินในบัญชีคงเหลืออยู่ประมาณ 5 แสนกว่าบาท ซึ่งรวมยอดเงินค้างเก่าในบัญชีด้วย
ส่วนกรณีที่ลูกสาวไปซื้อยาไทลินอลที่ปั๊มน้ำมันในวันเกิดเหตุนั้น นางบัวทอง ระบุว่า ไม่ทราบว่าลูกมีอาการป่วยหรือไม่สบาย เพราะปกติเวลาลูกปวดหัว ก็จะกินยาพารา หรือยาประเภทนี้อยู่เป็นประจำ
ส่วนเรื่องคดีความ ก็มีการตั้งไว้หลายประเด็น ส่วนตัวก็ยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องการฆ่าตัวตาย เพราะช่วงก่อนเกิดเหตุลูกไม่มีพิรุธว่าจะฆ่าตัวตาย ยอมรับว่าสงสัยเรื่องฆาตกรรม นอกจากนี้ ลูกก็ไม่เคยมีเรื่องปกปิดอะไรกับคนในครอบครัว ยิ่งเรื่องปมชู้สาว ลูกสาวก็เคยยอมรับว่าคุยกับชายอื่นอยู่ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร และก็ไม่ได้มีเรื่องราวใหญ่โต เพราะลูกสาวแค่คุยด้วย ไม่ได้มีอะไรเกินเลย